นครศรีธรรมราช - ห้าวอีก! นักศึกษาเทคนิคทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แบ่งพวกดวลปืนเดือดกลางถนน ก่อนพบดับ 1 สาหัสอีก 2 ตำรวจเตรียมเรียกพยานสอบก่อนออกหมายจับดำเนินคดี
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.(หญิง) ทษมนต์ สังข์แก้ว พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุนักศึกษาจำนวนหลายคนไล่ยิงกันบนถนนหลังวิทยาลัยเทคนิคทุ่งสง ในท้องที่หมู่ที่ 9 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีผู้บาดเจ็บหลายราย หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ รอง ผบก.รรท.ผกก.สภ.ทุ่งสง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่า อยู่หน้าบ้านเลขที่ 68/2 หมู่ 9 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บกระจัดกระจายอยู่ 3 ราย ส่วนพวกที่ร่วมกันก่อเหตุนั้นต่างแยกย้ายกันหลบหนี ขณะที่หน่วยกู้ภัยได้รีบนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่งโรงพยาบาลทุ่งสง รายแรกคือ นายนิรุทธ ทองปัสโน อายุ 19 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณศีรษะอาการสาหัส รายต่อมาคือ นายณัฐพล เพชรน่วม อายุ 19 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองกระจายเข้าเต็มแผ่นหลัง และอีกรายคือ นายชินณรงค์ ศรีสุวรรณ อายุ 19 ปี ถูกกระสุนปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณใบหน้า
ต่อมา แพทย์โรงพยาบาลทุ่งสง ได้ส่งตัว นายนิรุทธ ทองปัสโน ที่อยู่ในสภาพศีรษะเปิดจากความรุนแรงของกระสุนปืน เนื้อสมองเสียหายมายังโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช เพื่อช่วยชีวิตด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยกว่า แต่ปรากฏว่า ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช ส่วนอีก 2 รายนั้นอยู่ในอาการปลอดภัย
พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รรท.ผกก.สภ.ทุ่งสง เปิดเผยว่า นักศึกษาทั้ง 2 กลุ่มมีเรื่องกันมาก่อนแล้ว ทางวิทยาลัยพยายามแก้ปัญหา โดยวานนี้ (12 พ.ย.) ได้ค้นตัวกันทั้ง 2 ฝ่ายยึดอาวุธมีดไว้ได้จำนวนหนึ่ง และได้เชิญผู้ปกครองมาพบกันในวันนี้เพื่อพุดคุยปรับความเข้าใจกัน ปรากฏว่า นักเรียนทั้ง 2 กลุ่มไปดักรอเจอกันก่อนที่ผู้ปกครองจะมา และเปิดฉากทำร้ายกัน
“พบว่าขณะนี้มีอาวุธปืนที่ใช้อยู่ 3 กระบอก เป็นลูกซองสั้นทั้งหมด เจ้าหน้าที่ยึดได้ 1 กระบอก ที่เหลือเพื่อนๆ ได้พาหลบหนีไป ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกันมีปืนด้วยกันทั้งสองฝ่ายเป็นคดีที่ไม่ยาก ขณะนี้ได้เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ และนักศึกษาที่เกี่ยวข้องบางส่วนมาสอบปากคำแล้ว ผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำร้าย หรือเกี่ยวข้องในพฤติการณ์ก่อเหตุก็จะถูกหมายจับกุมดำเนินคดีไป” พ.ต.อ.ภูดิส กล่าว
