สุราษฎร์ธานี - ตำรวจสุราษฎร์ฯ รวบนักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน ลักทรัพย์ 2 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน บนเกาะเต่า แต่ไปไม่รอดถูกตำรวจดอนสักสกัดจับได้หลังจากหลบจากเกาะขึ้นบก พร้อมของกลางทั้งหมด
วันนี้ (12 พ.ย.) พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่ สภ.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจาก นายโดมินิท เคาร์ท อายุ 25 ปี และ น.ส.โมน่า เบเย่อ อายุ 19 ปี 2 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ซึ่งเข้าพักที่แบ็คแพ็คเกอร์โฮเต็ล บนเกาะเต่า ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาถูกคนร้ายลักทรัพย์สินหายไป จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย กล้องถ่ายรูป ยี่ห้อนิคอน มูลค่า 1 แสนกว่าบาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 เอส สีดำ โทรศัพท์มือถือโซนี่อิริคสัน 1 เครื่อง และแท็บเล็ต 1 เครื่อง สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในที่เดียวกัน แต่เป็นเตียงข้างล่าง หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวได้หายตัวไป
ภายหลังรับแจ้งแล้ว ทาง พ.ต.ท.โชคชัย ได้ประสานกำลังตำรวจไปสกัดที่บริเวณท่าเทียบเรือลมพระยา และขอภาพจากล้องวงจรปิดช่วงที่เรือออกจากเกาะเต่าให้ 2 ผู้เสียหาย ดูปรากฏภาพผู้ต้องสงสัยตามที่ผู้เสียหายแจ้งลงเรือเที่ยวประมาณ 08.00 น.วันนี้ (12 พ.ย.) จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนสัก และตำรวจท่องเที่ยวเข้าสกัดจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ที่สามแยกบ้านใน อำเภอดอนสัก ขณะกำลังเดินทางเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี ด้วยรถทัวร์โดยสารของบริษัทลมพยา จำกัด
จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องสงสัย คือ นายเมอฮาสชิมิ ชาดคาม (MIRHASHEMI SHADKAM) อายุ 43 ปี สัญชาติอิหร่าน และจากการตรวจสอบพบของกลางทั้งหมดที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป่าเดินทาง ทางตำรวจ สภ.ดอนสัก จึงส่งตัวกลับไปยัง สภ.เกาะเต่า เพื่อให้ผู้เสียหายชี้ตัวก่อนดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโจรน์ ผบก.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือต่อผู้ประกอบการห้องพักบังกะโล โรงแรมให้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องทรัพย์สิน เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพชาวต่างชาติได้แอบแฝงมาในคราบนักท่องเที่ยวแล้วฉวยโอกาสโจรกรรมทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนเป็นเหตุให้มีการเข้าใจผิดเหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือคนไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และชื่อเสียงของประเทศไทย
วันนี้ (12 พ.ย.) พ.ต.ท.โชคชัย สุทธิเมฆ สารวัตรใหญ่ สภ.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจาก นายโดมินิท เคาร์ท อายุ 25 ปี และ น.ส.โมน่า เบเย่อ อายุ 19 ปี 2 นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ซึ่งเข้าพักที่แบ็คแพ็คเกอร์โฮเต็ล บนเกาะเต่า ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาถูกคนร้ายลักทรัพย์สินหายไป จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย กล้องถ่ายรูป ยี่ห้อนิคอน มูลค่า 1 แสนกว่าบาท โทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 เอส สีดำ โทรศัพท์มือถือโซนี่อิริคสัน 1 เครื่อง และแท็บเล็ต 1 เครื่อง สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในที่เดียวกัน แต่เป็นเตียงข้างล่าง หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวได้หายตัวไป
ภายหลังรับแจ้งแล้ว ทาง พ.ต.ท.โชคชัย ได้ประสานกำลังตำรวจไปสกัดที่บริเวณท่าเทียบเรือลมพระยา และขอภาพจากล้องวงจรปิดช่วงที่เรือออกจากเกาะเต่าให้ 2 ผู้เสียหาย ดูปรากฏภาพผู้ต้องสงสัยตามที่ผู้เสียหายแจ้งลงเรือเที่ยวประมาณ 08.00 น.วันนี้ (12 พ.ย.) จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนสัก และตำรวจท่องเที่ยวเข้าสกัดจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ที่สามแยกบ้านใน อำเภอดอนสัก ขณะกำลังเดินทางเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี ด้วยรถทัวร์โดยสารของบริษัทลมพยา จำกัด
จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องสงสัย คือ นายเมอฮาสชิมิ ชาดคาม (MIRHASHEMI SHADKAM) อายุ 43 ปี สัญชาติอิหร่าน และจากการตรวจสอบพบของกลางทั้งหมดที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป่าเดินทาง ทางตำรวจ สภ.ดอนสัก จึงส่งตัวกลับไปยัง สภ.เกาะเต่า เพื่อให้ผู้เสียหายชี้ตัวก่อนดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโจรน์ ผบก.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือต่อผู้ประกอบการห้องพักบังกะโล โรงแรมให้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องทรัพย์สิน เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพชาวต่างชาติได้แอบแฝงมาในคราบนักท่องเที่ยวแล้วฉวยโอกาสโจรกรรมทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จนเป็นเหตุให้มีการเข้าใจผิดเหตุที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือคนไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และชื่อเสียงของประเทศไทย