นครศรีธรรมราช - เจ้าท่า ประมง และ ศปมผ.เตรียมเสนอ คสช.เพิกถอนทะเบียนเรือประมงใน 22 จังหวัด รวมกว่า 8 พันลำ เหตุเรือไม่ตรงกับทะเบียน ไม่มีเรืออยู่จริง และขาดการจดต่อเป็นเวลานานหลายปีติดต่อกัน
วันนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการจัดระเบียบเรือประมงพาณิชย์มาอย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีการคัดกรองเรือประมงที่มีคุณสมบัติไม่ตรงกับหลักเกณฑ์ และระเบียบข้อกฎหมายไม่สามารถทำประมงต่อไปได้จำนวนมาก ล่าสุดนั้น กรมเจ้าท่า กรมประมง และ ศปมผ.ได้สรุปผลการคัดกรองเรือประมงที่ต้องเพิกถอนทะเบียนเรือใน 22 จังหวัดชายฝั่งทะเล
ซึ่งมีกลุ่มเรือประมงที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบด้วย เรือในประเภทเรือกลประมงทะเลลึกชั้น 1 และชั้น 2 และประเภทเรือกลประมงทะเลชั้น 3 รวมถึง 8,024 ลำ มีขนาดเรือตั้งแต่ 0.2-602 ตันกรอส ซึ่งบัญชีเรือทั้ง 8,024 ลำนี้ จะถูกส่งให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกคำสั่งเพิกถอนทะเบียนเรือ
สำหรับการเพิกถอนนั้น สืบเนื่องจากเรือเหล่านี้มีทะเบียนที่ไม่ตรงกับขนาดเรือ หรือทะเบียนไม่ตรงกับลักษณะการทำประมงของเรือ รวมทั้งเรือที่ขาดการจดต่อทะเบียนมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเมื่อมีการประกาศเพิกถอนอย่างเป็นทางการแล้ว หากมีการนำเรือเหล่านี้มาทำประมงจะถูกดำเนินคดีในระวางโทษสูงสุด
ขณะที่ นายกมลศักดิ์ เลิศไพบูลย์ เลขาธิการสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ระบุว่า เรือที่ต้องเพิกถอนนั้นมีประเด็นคือ มีทะเบียนแต่ไม่มีตัวตน เนื่องจากเรือเหล่านี้ถูกส่งไปทำประมงที่อินโดนีเซีย ที่พม่า แต่สถานะทะเบียนของไทยยังไม่ได้เพิกถอน เรือที่เจ้าของละเลยไม่เข้าสู่ระบบการสำรวจ และเรือที่ทำประมงอยู่แต่มีรายชื่อตกหล่น ซึ่งในส่วนนี้จะต้องยื่นอุทธรณ์ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำประมงไม่ได้เพราะมีระวางโทษทั้งจำทั้งปรับในอัตราที่สูง