ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ด่านตรวจคนเข้าเมืองสงขลา ยกเครื่องบังคับใช้กฎหมายเข้า-ออกด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ทั้ง 3 แห่ง ปราบปรามแก๊งมอโต้อุ้มชาวต่างชาติข้ามพรมแดน แรงงานผิดกฎหมาย ป้องกันอาชญากรทุกรูปแบบ
วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบการเข้าออกด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา พร้อมกับวางมาตรการคุมเข้ม และยกเครื่องตรวจสอบการเข้าออกด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ทั้ง 3 แห่ง ทั้งด่านพรมแดนสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ และด่านประกอบ ใหม่ทั้งหมด และเต็มรูปแบบ
โดยเฉพาะการปราบปรามแก๊งมอโต้ ที่รับจ้างนำพาสปอร์ตชาวต่างชาติไปจ๊อบ และอุ้มข้ามผ่านพรมแดนโดยไม่ต้องแสดงตัวโดยได้รับค่าจ้างรายละ 1,000-2,500 บาท รวมทั้งจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างทั้งฝั่งไทย และมาเลเซีย จะต้องมีพาสปอร์ต หรือบอเดอร์พาส รวมทั้งคู่มือรถให้ถูกต้อง นอกจากนี้ การผ่านเข้าออกจะมีการสแกนใบหน้าทุกคนเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับด่านพรมแดนทั้ง 118 แห่งทั่วประเทศ ป้องกันการแฝงตัวเข้ามาของอาชญากรในทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ จะมีการกวาดล้างจับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง คนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด คนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต คนต่างด้าวที่มีหมายจับ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการเจ้าของกิจการที่พักที่ไม่แจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว
รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องแก่ผู้เดินทางเข้าออกด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 3 แห่งอย่างเข้มงวด ซึ่งจะต้องมีเอกสารครบตามที่กำหนด ทั้งผู้เข้าออก และรถยนต์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.นี้ ซึ่งได้มีการแจกจ่ายเอกสารแจ้งให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้รับทราบแล้ว
บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา สถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมในขณะนี้ ซึ่งปริมาณหมอกควัน และค่าฝุ่นละอองยังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกิน 360 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสูงที่สุดเป็นครั้งแรกของไทย นายไพฑูรย์ วงษ์สกุล หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสะเดา สำนักงานควบคุมโรคที่ 16 พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นำหน้ากากอนามัยไปแจกจ่ายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านเข้าออกด่านพรมแดนสะเดา
ซึ่งเป็นด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อสวมใส่ป้องกันมลพิษทางอากาศจากหมอกควัน ซึ่งขณะนี้ปกคลุมหนาแน่นทั้งในพื้นที่ฝั่งไทย และฝั่งมาเลเซีย แต่บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา การเดินทางเข้าออกของนักท่องเที่ยวยังคงปกติ แต่อาจจะบางตาเนื่องจากอยู่ในช่วงวันปกติ โดยเจ้าหน้าที่จะแจกหน้ากากอนามัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ