xs
xsm
sm
md
lg

เก่าแก่ที่สุด! พิธีอิ้วเก้งศาลเจ้ากะทู้คึกคัก ประชาชน-นักท่องเที่ยวตั้งโต๊ะรับพระตลอดเส้นทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศาลเจ้ากะทู้ อายุกว่า 200 ปี และเป็นศาลเจ้าแห่งแรกที่เริ่มจัดงานประเพณีถือศีลกินผัก ประกอบพิธีแห่พระรอบเมือง ท่ามกลางประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมตั้งโต๊ะรับพระขอพรเป็นจำนวนมาก

วันนี้ (20 ต.ค.) บรรยากาศการประกอบพิธีแห่พระรอบเมืองภูเก็ต งานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 ซึ่งเป็นวันที่ 8 ของการจัดงานประเพณีถือศีลกินผัก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนชาวภูเก็ต และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติหลายพันคนออกมารอรับขบวนแห่พระของศาลเจ้าหล่ายถู่ต่าวโบเก้ง หรือศาลเจ้ากะทู้ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอพรจากองค์พระ และชมการแสดงอิทธิฤทธิ์ของม้าทรง โดยการใช้ของแหลม ของมีคมต่างๆ ทั้งใน และนอกตำนาน ประกอบด้วย หัวมณฑล เหล็กแหลม มีดดาบ มีด ล้อแมกซ์รถจักรยานยนต์ ปืน ที่ปั๊มลมรถจักรยาน ทิ่มแทงตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก

สำหรับขบวนแห่พระของศาลเจ้ากะทู้ ได้เคลื่อนออกจากศาลเจ้ามุ่งหน้าเข้าตัวเมืองภูเก็ต เพื่อไปประกอบพิธีอัญเชิญกระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ที่บริเวณสระน้ำสะพานหิน ภูเก็ต กลับศาลเจ้า ทั้งนี้ เมื่อขบวนแห่พระผ่านมาถึงจุดที่มีประชาชนชาวภูเก็ต และนักท่องเที่ยวที่ตั้งโต๊ะบูชาพระ ได้มีการนำประทัดแพจำนวนมากจุดใส่ขบวนพระเพื่อเป็นการต้อนรับในโอกาสเสด็จออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ หรือออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์ โดยมีขบวนธง และป้ายชื่อแห่นำหน้า จากนั้นเป็นเกี้ยวหามรูปพระ เรียกว่า ไท่เปี๋ย หรือเสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวไป ซึ่งจัดตามชั้น และยศของเทพ จากนั้นเป็นขบวนของนิ่วสิ่ว หรือฉัตรจีน ตามด้วยพระเกี้ยวใหญ่ หรือเสลี่ยงใหญ่ ซึ่งมักใช้คน 8 คนหาม ซึ่งเป็นที่ประทับองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่ ทำให้พื้นที่ตัวเมืองภูเก็ตในเส้นทางที่ใช้ประกอบพิธีแห่พระถูกปกคลุมไปด้วยเสียง และควันจากประทัด

สำหรับศาลเจ้ากะทู้ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของภูเก็ต มีอายุกว่า200 ปี นับว่าเป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีถือศีลกินผักของชาวภูเก็ตที่สืบต่อมากระทั่งปัจจุบัน ศาลเจ้ากะทู้ ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านกะทู้ อ.กะทู้ ตามประวัตินั้นในสมัยที่มีชาวจีนเป็นจำนวนมากเข้ามาเป็นกรรมกรเหมืองแร่ในภูเก็ตได้เกิดโรคระบาดขึ้น คณะงิ้วจากเมืองจีนที่มาทำการแสดงที่บ้านกะทู้ เกรงว่าอาจเป็นเพราะพวกตนไม่ได้ถือศีลกินผักตามที่เคยปฏิบัติกันมาที่ประเทศจีน จึงได้จัดพิธีถือศีลกินผักขึ้น 9 วัน 9 คืน ตามความเชื่อที่มีมา รวมทั้งช่วยกันสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย หลังจากนั้น โรคร้ายก็หายไป ชาวบ้านกะทู้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงจัดให้มีพิธีถือศีลกินผักต่อเนื่องกันมา จากนั้นไม่นานประเพณีถือศีลกินผักก็แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ

ต่อมา หลวงอำนาจนรารักษ์ (ต้นตระกูลตัณฑเวทย์) ซึ่งเป็นนายเหมืองใหญ่ และเป็นผู้นำชุมชนบ้านกะทู้ ได้ส่งคนไปนำเอา “เหี่ยวเอี้ยน” หรือขี้เถ้าธูป และกระถางธูปจากมณฑลกังใส ประเทศจีน มาไว้ที่ศาลเจ้ากะทู้ เพื่อให้พิธีถือศีลกินผักมีความถูกต้องสมบูรณ์ ศาลเจ้ากะทู้ จึงได้ชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของประเพณีถือศีลกินผักบนเกาะภูเก็ตในปัจจุบัน

ส่วนในวันพรุ่งนี้ (21 ต.ค.) จะเป็นวันสุดท้ายของการประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2558 และศาลเจ้าซุ่ยบุ่นต๋อง (ศาลเจ้าหล่อโรง) จะทำพิธีแห่พระรอบเมืองเวลา 08.00 น. เป็นต้นไป และในช่วงเวลา 23.00 น. ศาลเจ้าทุกศาลเจ้าในจังหวัดภูเก็ตจะประกอบพิธีส่งพระ (กิ่วอ๋องไต่เต่-หยกอ๋องซงเต่)










 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น