กระบี่อ่วม! หมอกควันอินโดฯ ปกคลุมหนาแน่น เครื่องบินลงไม่ได้ ค่าฝุ่นละอองสูง

กระบี่ - หมอกควันจากอินโดฯ ปกคลุมหนาแน่นกว่าทุกวันทั่วพื้นที่จังหวัดกระบี่ ส่งผลให้กัปตันไม่สามารถนำเครื่องบินลงได้ ต้องเปลี่ยนไปลงสนามบินสุราษฎร์ธานีในช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่โรงไฟฟ้าภาคใต้ จ.กระบี่ ตรวจพบค่าฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานหลายจุด อาจทำให้เกิดอาการแสบคอ ระคายเคือง แนะประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการป้องกัน

วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์หมอกควันจากประเทศอินนิโดเซีย ยังคงแผ่ปกคลุมหนาแน่นทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัดกระบี่ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยในวันนี้พบว่า ปริมาณหมอกควันหนาแน่นกว่าทุกวัน ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่มาลงที่ท่าอากาศยานกระบี่ในช่วงเช้าไม่สามารถลงจอดได้ตามเวลาที่กำหนด บางสายการบินต้องเลื่อนเวลาออกลงจอดออกไปนานกว่า 40 นาที

นายวิทวัส ภัคดีสันติสกุล ผอ.ท่าอากาศยานกระบี่ เปิดเผยว่า เที่ยวบินช่วงเช้าประมาณ 2-3 เที่ยวบินยังไม่สามรถลงจอดได้ อย่างเช่น แอร์ เอเชีย และไลออน แอร์ ที่มีกำหนดลงในช่วงเช้าที่ผ่านมาต้องเปลี่ยนไปลงที่สนามบินสุราษฎรธานีแทน ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ฟ้าหลัว และหมอกควันอินโดนีเซีย ทำให้มีหมอกควันความหนาแน่นกว่าปกติ แต่คาดว่าช่วงบ่ายสภาพอากาศคงจะดีขึ้น และเครื่องบินก็จะสามารถลงจอดได้ตามปกติ

ขณะที่ นายวิมลไชย มงคล หัวหน้ากองบริหารโรงไฟฟ้าภาคใต้ เปิดเผยว่า จาการการใช้เครื่องมือวัดคุณภาพอากาศของโรงไฟฟ้ากระบี่ ทั้ง 4 จุด ประกอบด้วย จุดโรงไฟฟ้ากระบี่ จุดโรงเรียนบ้านเกาะโพด โรงเรียนบ้านทุ่งสาคร โรงเรียนบ้านคลองหวายเล็ก ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ค่าฝุ่นละอองในอากาศในบางช่วงเวลามีค่าสูงกว่า 170 ไมโครกรัม ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน (มาตรฐานกำหนดไม่เกิน 120 ไมโครกรัม)

ซึ่งฝุ่นที่เกินค่ามาตรฐานที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้เกิดอาการ เจ็บคอ แสบคอ ระคายเคือง และแสบจมูก และอาจจะรุนแรงในรายที่มีอาการเป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด ขอแนะนำให้ประชาชนที่อยู่บริเวณที่มีหมอกควันหนาแน่น ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือผ้าปิดจมูกเพื่อป้องกันในเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางสนามบินกระบี่ได้แจ้งว่า เครื่องบินสามารถลงจอดได้แล้วตามปกติ