กระบี่ - ครูกระบี่สุดทนร้องสื่อ 2 ปี โจรย่องเบาขึ้นบ้านรวม 5 ครั้ง ขโมยทรัพย์สินสูญกว่า 1 แสน น้อยใจตำรวจจับคนร้ายไม่ได้ ซื้อกล้องวงจรปิดติดข้างบ้านบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ นำเข้าแจ้งความสุดท้ายเรื่องยังเงียบ ต้องทนอยู่อย่างหวาดผวา
วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางเบญจพร กาพย์เกิด อายุ 46 บ้านเลขที่ 80 ถ.นภาจรัส ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากขโมยที่ย่องเบาเข้าบ้านหลายครั้งสูญเงินแล้วนับแสนบาท ล่าสุด ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถูกขโมยแอบย่องเข้าบ้านขโมยทรัพย์สิน จำนวน 3 ครั้งติดต่อกัน โดยครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา
ครูเบญจพร กล่าวว่า บ้านของตนเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วบ้านกั้นรอบ คนร้ายเข้าลักขโมยทรัพย์สินในบ้านรวมแล้ว 5 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี 47 ถูกหัวขโมยแอบย่องเข้าบ้าน 2 ครั้ง ขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งพระเครื่อง ทีวี และได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ แต่คดีก็ยังไม่คืบ ต่อมา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา หัวขโมยได้ย่องเข้าบ้านอีก ถูกขโมยทรัพย์สินไปอีกหลายรายการ
และต่อมา เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ขโมยได้แอบเข้ามาในบ้านอีก สูญทรัพย์สินไปอีกหลายรายการ และทุกครั้งที่ถูกโจรเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านได้เข้าแจ้งความทุกครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ และเมื่อถามถึงความคืบหน้าของคดีก็ได้รับคำตอบว่า ยังไม่สามารถตรวจพิสูจน์หลักฐาน หรือรอยนิ้วมือของคนร้ายได้ จึงได้ตัดสินใจไปซื้อกล้องวงจรมาติดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายเอง
จนเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา โจรได้เข้ามาขโมยทรัพย์ภายในบ้านอีกครั้ง กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เป็นชายร่างใหญ่ สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า สวมหมวกไอ้โมงปิดบังใบหน้า เบื้องต้น ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการตรวจสอบเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเดิม ตอนนี้ต้องอยู่ด้วยความหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าวันไหนคนร้ายจะแอบเข้ามาขโมยของภายในบ้านอีก
นางเบญจพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาบ้านของตนถูกขโมยปีนขึ้นบ้านลักทรัพย์หลายครั้ง จึงได้ติดตั้งกลองวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายเอง เนื่องจากตน และสามีไม่ได้อยู่บ้านต้องออกไปทำงาน กลับเข้าบ้านอีกครั้งก็เป็นช่วงเย็นๆ แต่พอกลับถึงบ้านก็พบว่าข้าวของเครื่องใช้ถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย และสิ่งของที่มีค่าจำนวนหลายชิ้นสูญหายโดยเฉพาะพระเครื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า และเงิน ครั้งล่าสุด กล้องสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว หรือไม่ก็ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางเบญจพร กาพย์เกิด อายุ 46 บ้านเลขที่ 80 ถ.นภาจรัส ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากขโมยที่ย่องเบาเข้าบ้านหลายครั้งสูญเงินแล้วนับแสนบาท ล่าสุด ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถูกขโมยแอบย่องเข้าบ้านขโมยทรัพย์สิน จำนวน 3 ครั้งติดต่อกัน โดยครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา
ครูเบญจพร กล่าวว่า บ้านของตนเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วบ้านกั้นรอบ คนร้ายเข้าลักขโมยทรัพย์สินในบ้านรวมแล้ว 5 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี 47 ถูกหัวขโมยแอบย่องเข้าบ้าน 2 ครั้ง ขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งพระเครื่อง ทีวี และได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ แต่คดีก็ยังไม่คืบ ต่อมา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา หัวขโมยได้ย่องเข้าบ้านอีก ถูกขโมยทรัพย์สินไปอีกหลายรายการ
และต่อมา เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ขโมยได้แอบเข้ามาในบ้านอีก สูญทรัพย์สินไปอีกหลายรายการ และทุกครั้งที่ถูกโจรเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านได้เข้าแจ้งความทุกครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ และเมื่อถามถึงความคืบหน้าของคดีก็ได้รับคำตอบว่า ยังไม่สามารถตรวจพิสูจน์หลักฐาน หรือรอยนิ้วมือของคนร้ายได้ จึงได้ตัดสินใจไปซื้อกล้องวงจรมาติดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายเอง
จนเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา โจรได้เข้ามาขโมยทรัพย์ภายในบ้านอีกครั้ง กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เป็นชายร่างใหญ่ สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า สวมหมวกไอ้โมงปิดบังใบหน้า เบื้องต้น ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการตรวจสอบเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเดิม ตอนนี้ต้องอยู่ด้วยความหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าวันไหนคนร้ายจะแอบเข้ามาขโมยของภายในบ้านอีก
นางเบญจพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาบ้านของตนถูกขโมยปีนขึ้นบ้านลักทรัพย์หลายครั้ง จึงได้ติดตั้งกลองวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายเอง เนื่องจากตน และสามีไม่ได้อยู่บ้านต้องออกไปทำงาน กลับเข้าบ้านอีกครั้งก็เป็นช่วงเย็นๆ แต่พอกลับถึงบ้านก็พบว่าข้าวของเครื่องใช้ถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย และสิ่งของที่มีค่าจำนวนหลายชิ้นสูญหายโดยเฉพาะพระเครื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า และเงิน ครั้งล่าสุด กล้องสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว หรือไม่ก็ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง