ปัตตานี - พายุลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ปัตตานี ทำต้นไม้ล้มขวางถนน หลังคาบ้านหลุดร่วง แถมพัดเต็นท์พักผู้โดยสารคิวรถรับ-ส่งพังเสียหาย
วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศฟ้าคะนองในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีฝนตก และลมพายุพัดเข้า เกิดภาวะลมกระโชกอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ริมทะเลที่มีอาชีพทำการประมงพื้นบ้าน ทำให้หลังคาบ้านเรือนราษฎรที่มุงหลังคาด้วยกระเบื้องหลุดร่วงแตกได้รับความเสียหายกระจ่ายทั่วพื้นที่
ซึ่งขณะนี้ทางท้องถิ่นกำลังเข้าตรวจสอบอีกครั้งรวบรวมความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป โดยส่วนใหญ่พบหลังคาบ้านเรือนได้รับความเสียหายเล็กน้อย มีเพียงที่บ้านแหลมนก ซอย 5 ม.8 ต.แหลมนก อ.เมือง จ.ปัตตานี บ้านพังเสียหาย 1 หลัง
นอกจากนั้น ยังพบว่ามีเสาสูงเครื่องส่งวิทยุของที่ว่าการ อ.หนองจิก ล้มทับสำนักงานเทศบาล ต.คุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้หลังคาได้รับความเสียหาย และยังมีเต็นท์ที่พักผู้โดยสารชั่วคราว ซึ่งเป็นที่ตั้งจอดรถคิวรถแท็กซี่บริการรับ-ส่ง ไปหลายอำเภอของ จ.ปัตตานี จำนวน 4 เต็นท์ ที่อยู่ในบริเวณสำนักขนส่งเดินรถ จ.ปัตตานี ริมถนนสาย 42 ปัตตานี นราธิวาส ม.8 ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ถูกลมกระโชกช่วงค่ำวานนี้ ทำให้เต็นท์ถูกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย จำนวน 4 คัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ส่งผลทำให้ประชาชนที่ใช้บริการคิวรถดังกล่าวไม่มีเต็นท์ต้องยืนตากแดด ส่วนผู้ให้บริการอยู่กลางแดดเช่นกัน ประชาชนที่มาใช้บริการแสดงความไม่พอใจต่างโวยหาว่ารัฐไม่ดูแล อยู่แต่ในห้องแอร์ แต่ประชาชนต้องอยู่กลางแดด ไม่มีอาคารถาวรมาหลายเดือน สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พื้นที่ขนส่งปัตตานี เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ อบจ.ปัตตานี หลังจากได้มีการจัดระเบียบตามคำสั่งของ คสช. ในการคืนพื้นที่ฟุตปาธทางเดินให้แก่คนเมือง ทำให้จุดปล่อยรถโดยสารประจำทางขนาดเล็กที่เคยตั้งอยู่ภายในเทศบาลเมือง ต้องย้ายไปรวมจุดเดียวกันภายในสถานีขนส่งปัตตานี แต่กลับไม่มีอาคารรองรับ จึงต้องใช้เต็นท์ผ้าใบเป็นที่พักผู้โดยสารชั่วคราวไว้ก่อน โดยประชาชนยังไม่สามารถรับรู้ได้ว่าจะมีการสร้างอาคารที่พักผู้โดยถาวรหรือไม่ เมื่อไร และอย่างไร
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ ม.1 บ้านสุไหงปาแน ต.บานา ได้เกิดภาวะลมกระโชกพัดต้นชมพู่ป่าขนาดใหญ่ อายุราวร้อยกว่าปี มีขนาดเส้นผ่าสูญกลางประมาณ 2 เมตร ล้มขวางถนนภายในหมู่บ้าน โชคดีไม่ถูกบ้านเรือนราษฎรที่อยู่บริเวณดังกล่าว