ปัตตานี - สุดเศร้า! ญาติผู้แสวงบุญชาวไทยที่เสียชีวิตจากเครนล้มที่นครเมกกะ รับต้องทำใจให้ได้ เผยเป็นกำหนดจากพระเจ้า เตรียมจัดงานตามหลักศาสนา
วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 185 ม.1 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.วานิดา สะดี อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้แสวงบุญไปประกอบพิธีฮัจญ์ และได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครนล้มในบริเวณมัสยิดฮะรอม เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยบรรยากาศที่บ้านหลังดังกล่าวทางครอบครัว และญาติได้กางเต็นท์ไว้หน้าบ้าน เพื่อรองรับญาติ และเพื่อนบ้าน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ที่จะเดินทางมาเยี่ยม ซึ่งหลังจากที่ทางครอบครัวทราบข่าวการเสียชีวิตของ น.ส.วานิดา ทำให้ญาติ และเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจต่อครอบครัวกันไม่ขาดสาย
รวมไปถึง นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาล และสำนักนายกรัฐมนตรี นายสาโรช กาญจนพงศ์ นายอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจ และกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และได้มอบสิ่งให้ นางตูแวซง สะดี อายุ 76 ปีมารดา เพื่อเป็นกำลังใจด้วย โดย นางตูแวซง ยังเสียใจต่อการจากไป ในมือยังกอดรูปภาพโดยมีลูกๆ คอยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
ร.ต.ต.นิโซ๊ะ สะดี พี่ชายกล่าวว่า น้องสาวเดินทางไปวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดกลับวันที่ 7 ต.ค.นี้ หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2532 ก็ได้เข้าทำงานธนาคารหลายแห่ง ล่าสุด อยู่ที่ธนาคารธนชาต กรุงเทพฯ โดยวันเกิดเหตุน้องสาวกำลังเดินทางเพื่อจะไปซื้อของฝากให้ญาติ โดยมีพี่สาว และหลานชายมาด้วย ระหว่างนั้นพี่สาวกับหลานชายได้ขอตัวกลับที่พักก่อน น้องสาวจึงเดินซื้อของต่อคนเดียว
จนกระทั่งเกิดลมพายุฝนตกหนัก ตนรู้ข่าวจากโทรทัศน์ก็ตกใจจึงได้โทร.ไปถาม ซึ่งพี่สาวก็บอกว่า ปลอดภัยทั้ง 3 คน ซึ่งพี่สาวพยายามปิดข่าวเพราะกลัวตกใจ ตนก็สบายใจ แต่ปรากฏว่า มีหน่วยงานมาแจ้งเมื่อเช้าว่า น.ส.วานิดา ซึ่งเป็นน้องสาวเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว ทำให้ทุกคนในบ้านตกใจ และเสียใจทันที เพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะกระทบต่อครอบครัวตน
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องทำใจว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่พระเจ้ากำหนดมา สำหรับศพนั้นทางการได้ทำพิธีฝังศพแล้วเมื่อเช้าที่ผ่านมา โดยต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยประสาน และช่วยเหลือในทุกเรื่อง ส่วนทางบ้านก็จะมีการทำบุญตามหลักศาสนาอิสลามต่อไป