กระบี่ - ชาวเน็ตต่างชื่นชม! คุณหมอเมืองกระบี่ “นายแพทย์สมเกียรติ กิจธรรมเชษฐ์” ศัลยแพทย์ด้านกระดูกและข้อ เปิดคลินิกรักษาผู้ป่วยค่ารักษา 0-500 บาท ไม่มีไม่ต้องจ่าย เผยต้องการให้คนในสังคมช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
หลังจากที่มีการแชร์เรื่องราวที่น่าทึ่งของนายแพทย์สมเกียรติ กิจธรรมเชษฐ์ ถึงแนวคิด และวิธีการการรักษาพยาบาลผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Ittaporn Kanacharoen” โดยระบุเนื้อหาว่า “หมอไทยใจอารี” หน้าคลินิกแห่งหนึ่งที่จังหวัดกระบี่ มีข้อความเขียนว่า “หมอเข้าใจดีว่า เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เงินทองหายากขึ้น ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการเงิน และต้องใช้เงินเพื่อสิ่งที่จำเป็นอย่างอื่นด้วย ให้รับยาทั้งหมดไปได้เลย แล้วจ่ายหรือไม่ตามแต่พอสะดวก ภายหลังถ้าพอมีกำลังช่วยเหลือคนอื่นได้ขอให้ช่วยเหลือตามสมควร ค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่ 0-500 บาท ห้ามกู้หนี้ยืมสินมารักษาเด็ดขาด ถ้าขณะนี้มีปัญหาการเงินขอให้บอก จะรักษาพยาบาลให้จนหายดี ภายหลังหากมีโอกาสให้ช่วยเหลือผู้อื่นด้วย..”
หมอสมเกียรติ กิจธรรมเชษฐ์ จุฬาฯ รุ่น 31 สะท้อนภาพเพราะหมอไทยในภาครัฐขาดแคลน ประชาชนเจ็บป่วยจึงไม่สามารถเข้าถึงการรักษา “ตามสิทธิฟรี” ของรัฐได้ทุกคน แต่บ้านเราโชคดีที่มี “หมอภาคเอกชน”..น้ำใจงาม ในฐานะรองเลขาธิการแพทยสภา ขอชื่นชมครับ
ผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” จึงเดินทางไปพูดคุยกับคุณหมอที่คลินิก ชื่อ “คลินิกหมอสมเกียรติ” ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ติดกับบันใดนาค ทางขึ้นวัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวง จังหวัดกระบี่ โดยมีผู้ป่วยมารอรักษาตั้งแต่ก่อนเปิดคลินิก และได้พบกับนายแพทย์สมเกียรติ จึงได้สอบถามถึงแนวคิดดังกล่าว ซึ่งได้รับคำตอบว่า อยากเผยแพร่ความคิดที่ควรทำไปยังคนอื่นๆ ด้วย เพราะเชื่อว่าคนเราทุกคนเกิดมาที่โลกนี้เพราะมีวัตถุประสงค์ และจุดมุ่งหมายบางอย่างแน่นอน อยู่ที่เราจะระลึกกันได้หรือเปล่า ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ให้มาสะสมเงินทอง หรือทรัพย์สินนอกกายแน่ๆ เพราะตายไปแล้วมันเอาไปไม่ได้จริงๆ
“อย่าสนใจว่าผมเป็นใคร ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ขอให้สนใจที่ความคิด” นี่คือคำพูดของ “นพ.สมเกียรติ กิจธรรมเชษฐ์” คุณหมอที่มีจิตใจเปี่ยมไปด้วยความเอื้ออารี เล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า ครอบครัวมีอาชีพค้าขาย แม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงลูก 7 คน โดยตนเป็นลูกคนที่ 2 เร่ร่อนไปเรื่อย และจากลูกชาวบ้านได้รับโอกาสจากจุฬาฯ ได้เข้าเรียนแพทย์ และเมื่อจบออกมาได้ทำงานเป็นหมออยู่ในพื้นที่ กทม.และภาคกลางอยู่พักหนึ่ง ก็ได้ไปศึกษาเกี่ยวโรคกระดูกเมื่อจบมาได้มีแพทย์รุ่นน้องคนหนึ่งบอกว่า จ.กระบี่ ไม่มีแพทย์กระดูกและข้อ ผู้ป่วย และญาติเดือดร้อนมาก จึงตัดสินใจย้ายมาเป็น “ศัลยแพทย์ด้านกระดูกและข้อคนแรก” ของโรงพยาบาลกระบี่ เมื่อปี 2535
โดยทำงานในโรงพยาบาลกระบี่ ได้ประมาณ 3-4 ปี ก็ลาออกมาเปิดคลินิกเพื่อไม่เบียดบังเวลาของราชการ เป็นจุดเริ่มต้นของการช่วยเหลือคนทุกข์ยากด้วยกัน โดยพบว่า มีผู้ป่วยจำนวนมากเป็นเกษตรกร ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่คือ ความเจ็บปวด หรือทุพพลภาพจากการทำงาน อีกทั้งชาวบ้านยังมีรายได้น้อย และยังต้องใช้จ่ายเลี้ยงปากเลี้ยงท้องก็แทบจะไม่เหลือนำมาจ่ายค่ายา ประกอบกับคนใต้ส่วนใหญ่ยืดถือศักดิ์ศรี มีความเกรงใจสูง ไม่ค่อยเอ่ยปากขอให้ช่วยง่ายๆ จึงต้องเขียนป้ายประกาศชัดเจนว่า ค่ารักษาตั้งแต่ 0-500 บาท
โดยยินดี และเต็มใจที่จะช่วยเหลือจริงๆ และขอให้ผู้ป่วยสืบทอดความคิด และมีความเอื้อเฟื้อ ช่วยผู้อื่นต่อไปเมื่อสามารถทำได้ ป้ายประกาศต่างๆ ที่คุณหมอพูดถึงนั้น คือ ป้ายที่ทำขึ้นเอง ติดอยู่ตามฝาผนังห้องรับ จ่ายยา ผู้ป่วย เพื่อบอกให้คนไข้รู้ว่าหมอยินดี และเต็มใจช่วย ห้ามกู้หนี้ยืมสินมารักษาเด็ดขาด หากมีปัญหาเรื่องเงินให้บอก จะรักษาให้หายดี ผู้ป่วยที่ต้องการเหลือเงินเพื่อซื้ออาหาร หรือจ่ายในสิ่งจำเป็นของครอบครัว ให้รับยา และการรักษาทั้งหมดได้เลย แล้วจ่ายแต่บางส่วนได้ ในภายหน้าถ้ามีโอกาสอำนวย ให้ช่วยเหลือผู้อื่นที่ควรช่วยตามสมควร
หมอสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า ไม่เคยคิดว่าที่ทำมาตลอดกว่า 20 ปี เป็นความดีวิเศษอะไรกว่าคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่คนทั่วๆ ไปควรจะทำอยู่แล้ว มีคนอีกมากที่ทำยิ่งกว่าตน ทุกอย่างที่กำลังทำอยู่ได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณแม่ และเชื่อว่าทุกคนสามารถทำดีได้ และนอกจากนี้ ยังมีความต้องการรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดทุกชนิดที่ต้องการเลิกเสพจริงๆ จะรักษาให้ดีขึ้นเท่าที่ทำได้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และนอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดห้องสมุดเล็กๆ ติดกับคลินิกเพื่อให้ผู้ป่วย หรือญาติที่มานั่งรอได้อ่านหนังสือเพื่อเป็นประโยชน์อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะเปิดรับบริจาคในโอกาสต่อไป
ตลอดเวลาที่ผู้สื่อข่าวนั่งพูดคุยกับนายแพทย์สมเกียรติ ได้มีผู้ป่วยทยอยมาเข้ารับการรักษาที่คลินิกอย่างต่อเนื่อง บางคนที่เป็นคนชรา และเดินไม่สะดวกคุณหมอก็จะออกมาดูอาการให้ถึงข้างนอกโดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเดินเข้าไปหาภายในห้องรักษาอาการ ทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับทึ่งในความมีน้ำใจ เอื้ออารีของคุณหมอ ซึ่งจากการสอบถามผู้ป่วยบางคนรู้สึกสบายใจที่มารักษากับคุณหมอ เพราะอย่างน้อยๆ ก็เห็นถึงความเอาใจใส่ผู้ป่วยโดยที่ไม่ได้แบ่งแยกชนชั้นคนรวยคนจน ทุกคนเท่าเทียมกัน ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของคนดีๆ ควรแก่การยกย่องในสังคมปัจจุบัน จนมีนำไปแชร์กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล