กระบี่ - กระบี่ เผชิญสถานการณ์หมอกควันรอบ 2 ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ทางบก ทางน้ำลดลง ยังไม่ส่งผลต่อสุขภาพ
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ได้เกิดปรากฏการณ์หมอกควันกลับมาพัดปกคลุมพื้นที่จังหวัดกระบี่อย่างหนาแน่นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นระยะเวลานาน 2-3 วัน โดยครั้งล่าสุดนี้ ปัญหาหมอกควันได้เริ่มปกคลุมเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เกิดฟ้าหลัว ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะลดลง รวมถึงการเดินเรือในทะเลด้วย
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ของหมอกควันที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเป็นควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย พัดมากคลุมในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ส่งผลทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะทางบก ทางทะเลลดลง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินจึงขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
นายวรสิงห์ ทิ้งหีด หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยากระบี่ ได้ตรวจพบกลุ่มหมอกควันอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่จางหายไประยะหนึ่งซึ่งปริมาณยังไม่หนาแน่นมาก และคาดว่าหากปริมาณความหนาแน่นไม่เพิ่มขึ้นไปกว่านี้ก็เชื่อว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ในส่วนของผู้ที่เป็นโรคประจำตัวอยู่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง และป้องกันตัวโดยการใส่หน้ากากก็จะเป็นการดี
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ได้เกิดปรากฏการณ์หมอกควันกลับมาพัดปกคลุมพื้นที่จังหวัดกระบี่อย่างหนาแน่นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นระยะเวลานาน 2-3 วัน โดยครั้งล่าสุดนี้ ปัญหาหมอกควันได้เริ่มปกคลุมเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เกิดฟ้าหลัว ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะลดลง รวมถึงการเดินเรือในทะเลด้วย
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ของหมอกควันที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเป็นควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย พัดมากคลุมในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ส่งผลทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะทางบก ทางทะเลลดลง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินจึงขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
นายวรสิงห์ ทิ้งหีด หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยากระบี่ ได้ตรวจพบกลุ่มหมอกควันอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่จางหายไประยะหนึ่งซึ่งปริมาณยังไม่หนาแน่นมาก และคาดว่าหากปริมาณความหนาแน่นไม่เพิ่มขึ้นไปกว่านี้ก็เชื่อว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ในส่วนของผู้ที่เป็นโรคประจำตัวอยู่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง และป้องกันตัวโดยการใส่หน้ากากก็จะเป็นการดี