รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามปัญหาเรือประมง ไม่พบกระทำผิดกฎหมาย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจเยี่ยม และติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงจังหวัดภูเก็ต ยืนไม่พบการทำประมงผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ พร้อมกำชับทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปลดล็อกใบเหลืองจากสหภาพยุโรป หรืออียูได้ต่อไป

วันนี้ (3 ก.ย.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งเพื่อพูดคุยรับฟังปัญหาของผู้ประกอบเรื่องประมงในจังหวัดภูเก็ต ที่ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต องค์การสะพานปลา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต โดยมี นาวาเอกปรีชา ตันติรักส์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงภูเก็ต พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประเทือง ศรีละมนตรี รักษาการในตำแหน่งผู้บังคับการ 8 กองกำกับการตำรวจน้ำ และคณะ นายสมยศ วงศ์บุญยกุล นายกสมาคมประมงภูเก็ต ผู้ประกอบการประมง ตลอดจนหัวหน้าหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ซึ่งพบว่า ตั้งแต่มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงภูเก็ต (PIPO) ดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุดปฏิบัติการสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ ได้ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี โดยแต่ละวันมีเรือประมงมาแจ้งเข้า-ออกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ระหว่างเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคมนี้จะเป็นการติดตามรวบรวมผลการประเมินการปฏิบัติงานซึ่งขณะนี้ยังไม่พบปัญหาการค้ามนุษย์ หรือการใช้แรงงานประมงที่ผิดกฎหมาย เรือและอุปกรณ์ในเรือที่ออกไปทำประมงมีความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายสั่งการให้ทุกหน่วยบูรณาการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปลดล็อกใบเหลืองจากสหภาพยุโรป หรืออียูได้ต่อไป

ด้าน นาวาเอกปรีชา ตันติรักส์ หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาของศูนย์ดังกล่าว ปัญหาต่างๆ ได้คลี่คลายลงไปเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาตัวเรือ อาชญาบัตร รวมทั้งปัญหาเรื่องแรงงาน ในระยะแรกอาจจะมีปัญหาเรื่องแรงงานผิดกฎหมายบ้าง แต่ ณ ปัจจุบันทางศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ได้เน้นแก้ปัญหาต่างๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการสนับสนุนกำลังเข้ามาร่วมด้วย เราเน้นเรื่องการป้องกันการเกิดปัญหามากกว่าไปจับกุมในภายหลัง ในส่วนของจัดหางาน แรงงาน หรือสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้ามาช่วยเรื่องของการจดทะเบียนแรงงาน สัญญาจ้าง สิทธิ และสวัสดิการให้แก่แรงงานต่างๆ ปัจจุบันในพื้นที่ของภูเก็ต ในส่วนของเรือพาณิชย์ที่ทางศูนย์ PIPO รับผิดชอบปัญหาเรื่องแรงงานต่างๆ ปัจจุบันยังไม่ตรวจพบการกระทำผิด ถือว่าประสบความสำเร็จได้รับความร่วมมือจากในส่วนของผู้ประกอบการ เจ้าของเรือต่างๆ เป็นอย่างดี ผลการดำเนินการ ณ ปัจจุบันสัมฤทธิผลเป็นที่น่าพอใจ

สำหรับจำนวนเรือที่เป็นเรือพาณิชย์ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ที่จดทะเบียนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จะมีเพียง 120 ลำ แต่เรือที่เข้าออกท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต เนื่องจากเป็นท่าที่สำคัญ มีสถิติเรือเข้าออกมากถึง 280 ลำ นาวาเอกปรีชา กล่าว

ทั้งนี้ หลังการตรวจเยี่ยมเสร็จสิ้นแล้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เข้าฟังบรรยายการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการสนับสนุนศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงจังหวัดภูเก็ต ที่สำนักงานท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต องค์การสะพานปลาด้วย