พังงา - ญาติๆ น.ส.วรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบวางระเบิดสี่แยกราชประสงค์ ไม่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อขบวนการดังกล่าว วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน รอให้น้องสาวกลับจากตุรกีมาพิสูจน์ตัวเอง
วันนี้ (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคุระบุรี จ.พังงา ได้เชิญ นายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านห้วยทรัพย์ ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา พร้อมด้วย นายอีฉา สวนสัน พี่ชายของ น.ส.วรรณา สวนสัน อายุ 27 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมที่ที่ว่าการอำเภอคุระบุรี
โดยทาง นายอิรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้านออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว วอนขอให้รอเจ้าตัวได้มาพิสูจน์ตนเองก่อนที่จะมีการสรุปใดๆ ซึ่งบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 232 ม.6 บ้านห้วยทรัพย์ ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา เติมไปด้วยบรรดาญาติๆ ทั้งพ่อแม่และพี่ๆ ของ น.ส.วรรณา ได้มารวมตัวพูดคุยปรึกษาด้วยความวิตกกังวล และอาการเคร่งเครียดจากเหตุการณ์ออกหมายจับของศาลมีนบุรี ในข้อกล่าวหาครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต เชื่อว่ามีส่วนเชื่อมโยงต่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์
สำหรับ น.ส.วรรณา สวนสัน อายุ 27 ปี เกิดเมื่อ 16 ม.ค.2531 เป็นบุตรสาวคนสุดท้อง มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านคำพรวน จนจบมัธยมตอนปลายที่โรงเรียนสุขสำราญรังสรรค์ และได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจบปริญญาตรี ได้ออกมาค้าขายสินค้าระหว่างประเทศ และได้แต่งงานกับชายชาวตุรกี จนได้บุตรชายอายุ 7 เดือน ซึ่งในวัยเด็กของ น.ส.วรรณา มีนิสัยเรียบร้อย กตัญญูรู้คุณ เคร่งศาสนา พบว่ามีการละหมาดวันละ 4 เวลาจนเป็นที่รักใคร่ของพ่อแม่ ญาติๆ และเพื่อนฝูง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายในพื้นที่ที่รู้จักนิสัยใจคอ ไม่เชื่อว่า น.ส.วรรณา จะมีส่วนรู้เห็น หรือร่วมขบวนการก่อเหตุดังกล่าว
นายอีฉา สวนสัน พี่ชายของ น.ส.วรรณา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางครอบครัวรู้สึกเครียดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอความเป็นธรรมให้แก่น้องสาว อย่าเพิ่งด่วนตัดสินสรุปว่า น้องสาวตนร่วมกับผู้ก่อการร้าย อยากให้รอเจ้าตัวกลับมาพิสูจน์ขอเท็จจริง พร้อมกับขอให้ทางภาครัฐช่วยออกค่าเดินทางในการกลับมาเมืองไทย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของน้องสาวตนเองด้วย โดยหลายฝ่ายในพื้นที่ยังเชื่อมั่นว่าครอบครัวของตน รวมถึงน้องวรรณา ไม่มีส่วนพัวพันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางด้าน น.ส.สุดา สวนสัน พี่สาวของ น.ส.วรรณา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าทาง คสช. จะให้ความเป็นธรรมแก่น้องสาว และครอบครัว ขณะนี้ตนเอง และครอบครัวอยู่ในอาการเครียดแทบจะพูดอะไรไม่ออก ชาวบ้านบางรายมีอาการมองครอบครัวของตนแบบแปลกๆ แต่ตนเอง และครอบครัวยังมั่นใจในตัวของน้องสาวว่าไม่มีส่วนรู้เห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้แต่รอให้น้องวรรณา ได้กลับมาพิสูจน์ความจริงเรื่องราวต่างๆ ให้ประจักษ์แก่ประชาชนในสังคมต่อไป