xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม จ.สุราษฎร์ฯ ผูกคอกับราวเหล็กดับ ตร.เร่งสอบหาสาเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุราษฎร์ธานี - “พระศรีปริยัตยาภารณ์” เจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม อารามหลวง (วัดหลวงพ่อพัฒน์) จ.สุราษฎร์ฯ ผูกคอดับปริศนา คาดเกิดจากความเครียด ขณะที่ตำรวจไม่ทิ้งประเด็น หวั่นฆาตกรรมอำพราง

วันนี้ (30 ส.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.ท.สมศักดิ์ มาศมาลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งมีพระผู้ใหญ่ในวัดพัฒนาราม พระอารามหลวง (วัดหลวงพ่อพัฒน์) อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ใช้สายรัดประคด (สายรัดเอว) ผูกคอกับราวเหล็กในกุฏิเจ้าอาวาสมรณภาพ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองกำกับการพิสูจน์หลักฐาน 8 แพทย์เวร รพ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุในกุฏิเจ้าอาวาส พบร่างของพระศรีปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อกลีบ วรปัญโญ) อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม พระอารามหลวง ในสภาพใช้สายรัดประคดผูกคอมรณภาพอยู่บนพื้นหน้าห้องนอนภายในกุฏิดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ และรอยนิ้วมือแฝง

พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า กุฏิเจ้าอาวาสมีผู้อาศัยอยู่ 2 คน คือ เจ้าอาวาสวัด และนายสมบูรณ์ จันทร์ตรีรัตน์ ไวยาวัจกรณ์วัด และจากการสอบถาม นายสมบูรณ์ ทราบว่า เมื่อเวลา 05.30 น. ตนพบเจ้าอาวาสกลายเป็นศพแล้วโดยสภาพศพใช้สายรัดประคดผูกคอติดกับราวเหล็กสูงประมาณ 2 เมตร เหนือประตูหน้าห้องนอน จึงได้เรียกสามเณรมาช่วย และตัดสายรัดประคดนำศพเจ้าอาวาสลงมา หลังจากนั้น จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ จากการตรวจสอบร่างของเจ้าอาวาสไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย ภายในกุฏิ และในห้องนอนไม่มีร่องรอยการถูกรื้อค้น

นอกจากนั้น นายสมบูรณ์ ยังให้รายละเอียดว่า พระศรีปริยัตยาภรณ์ มีโรคประจำตัว และมีอาการเครียดนอนไม่หลับในเวลากลางคืนมาเป็นเวลา 2 เดือนเศษแล้ว ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะเกิดจากความเครียดตัดสินใจผู้คอตนเองดับ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ทิ้งประเด็นฆาตกรรมอำพราง เร่งสอบคนใกล้ชิดหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมทั้งนำศพส่งผ่าพิสูจน์หาหลักฐานที่สำคัญเพื่อดำเนินการต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น