นราธิวาส - งานสานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย ที่รัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย ผลตอบรับดีเกินคาด ชาวมาเลเซียแห่ซื้อสินค้าโอทอปนราฯ ตลอด 5 วัน รวมกว่า 3 ล้านบาท พร้อมขยายเวลาออกร้านเพิ่มอีก 2 วัน ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.58
วันนี้ (26 ส.ค.) นางปราณี รัตนประยูร พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงการจัดงานสานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 20-29 ส.ค.58 ที่จัดขึ้น ณ Shahbandar Kualaterangganu เมืองกัวลาตรังกานู รัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย ว่า มีการตอบรับจากชาวมาเลเซียดีเกินคาด โดยมีการจับจ่ายซื้อสินค้าโอทอปที่ประกอบด้วย สินค้าประเภทอาหาร เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่ง และอาหารปรุงสดรวมกว่า 70 บูทกันอย่างคึกคัก ทำให้มียอดจำหน่ายตลอด 5 วัน รวมแล้วกว่า 3 ล้านบาท จนผู้ประกอบการเรียกร้องให้ขยายเวลาการออกร้านจำหน่ายสินค้าเพิ่มอีก 2 วัน ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.58 เพื่อให้ถึงช่วงวันชาติของมาเลเซีย ซึ่งทางมาเลเซียตอบตกลงในเรื่องดังกล่าวแล้ว
พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมการพัฒนาชุมชน จังหวัดละ 6 แสนบาท ในกลุ่มจังหวัดที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดำเนินการสานสัมพันธ์ระหว่างกัน ตลอดจนเป็นการขยายตลาดการค้าให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าโอทอปในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยครั้งนี้มีผู้ประกอบการหลายรายสามารถจับคู่ธุรกิจเพื่อติดต่อสั่งซื้อสินค้าต่อไปในระยะยาว และเป็นที่น่ายินดีว่า แม้รัฐตรังกานู จะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของประเทศมาเลเซีย แต่สินค้าประเภทนี้ของจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถตีตลาดได้ โดยมียอดจำหน่ายในผลิตภัณฑ์กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสูงกว่า 8 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส ยังห่วงเกี่ยวกับสินค้าประเภทอาหารที่พฤติกรรมความเชื่อของพี่น้องชาวมุสลิมยังยึดติดเพียงว่า “อาหารฮาลาล คือ อาหารที่ทำโดยมุสลิม” โดยไม่มองถึงมาตรฐานของอาหารสากลที่ต้องมีใบรับรองคุณภาพตามมาตรฐานฮาลาล จึงไม่ตื่นตัวที่จะศึกษาเรียนรู้เพื่อให้ได้ใบรับรองที่จะเป็นเอกสารยืนยันให้สามารถสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และเม็ดเงินอีกเป็นจำนวนมาก เพราะมาเลเซียยังเป็นตลาดใหญ่ของกลุ่มผู้ประกอบการอาหารของไทยที่จะได้รับเมื่อมีใบรับรองฮาลาล
ทั้งนี้ หน่วยงานราชการที่นำโดยศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมให้การสนับสนุนการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ ดังนั้น หลังจากนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนราธิวาสจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการอาหารของไทยพัฒนาคุณภาพอาหารให้มีใบรับรองมาตรฐานฮาลาล ก่อนเข้าไปเปิดตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจังในอนาคต