ปัตตานี - รอง ผบช.ศชต.ติดตามเร่งรัดคดีคนร้ายบุกยิงเจ้าบ่าวภายในงานแต่ง เผยมีพยานเห็น 4 คนร้ายชัดเจน แต่ยังไม่เปิดเผย ขอรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาก่อนออกหมายจับ
วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้า และเร่งรัดคดีกรณี 4 คนร้าย บุกก่อเหตุในงานแต่งงานก่อนจะใช้อาวุธปืนยิง อส.ทพ.อาหาหมัด ดาโอ๊ะ อายุ 27 ปี สังกัดชุดปฏิบัติการซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เสียชีวิตต่อหน้ามารดา และเจ้าสาว ภายในงานแต่งโดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งในที่ประชุม พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รายงานผลคดีความคืบหน้า หลังจากรับรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนที่ลงพื้นที่หาข่าวว่า คนร้ายทั้ง 4 คน มีอายุประมาณ 20-30 ปี โดยมีการเปิดเผยใบหน้าชัดเจน คนร้ายได้เดินเข้ามาปะปนกับแขกที่มาร่วมงาน และทำทีมานั่งในเต็นท์ จังหวะที่ผู้ตายนั่งคุยกับมารดาอยู่นั้น 1 ในคนร้ายได้เดินเข้าไปจ่อยิงทันทีก่อนจะวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ ส่วนอีก 3 คนร้ายพยายามคุ้มกันมือปืน แต่แล้วก็สามรถหลบหนีไปได้
ซึ่งขณะนี้ได้มีการเชิญพยานมาสอบปากคำแล้วบางส่วน และยังมีอีกหลายปากกำลังทยอยเข้ามาให้ข้อมูล ซึ่งผลการสอบปากคำมีความคืบหน้าเกี่ยวกับรูปพรรณของคนร้าย โดยเฉพาะ 2 ใน 4 ซึ่งชุดสืบสวนได้นำภาพจากแฟ้มคดีประวัติ ทั้งความมั่นคง และคดีอาชญากรรมมาให้พยานชี้ว่าตรงกับคนร้ายหรือไม่ เบื้องต้น พอทราบตัวแล้ว แต่ขอตรวจสอบจากพยานหลักฐานอื่นๆ มาประกอบด้วย โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุด ขณะนี้กำลังไล่ตรวจสอบอย่างละเอียด
พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคดีอุกอาจ และสะเทือนใจต่อครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบ และประชาชนทุกคน เพราะก่อเหตุในงานแต่ง ซึ่งเป็นความสุขของชีวิตคู่ในความรู้สึกยินดีของทุกคน ตนได้ลงมาเร่งรัดคดี และมอบแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อที่จะได้ข้อมูล และรู้ตัวคนร้ายที่ชัดเจน ซึ่งจากข้อมูลที่ได้ล่าสุดถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเฉพาะคนร้ายบางส่วนที่ร่วมก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
นอกจากนี้ วัตถุพยานต่างๆ ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อนำมาเชื่อมโยงกับหลักฐานที่มีอยู่ เชื่อว่าน่าจะมีน้ำหนัก และสาวถึงตัวผู้ที่ก่อเหตุได้ชัดเจนมากขึ้น และขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะออกหมายจับ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ เนื่องจากคนร้ายทั้ง 4 คน ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่อาจจะมีคนชี้เป้าซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ส่วนสาเหตุอื่นก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง แต่ต้องอยู่ในกระบวนการสอบสวนต่อไป
