xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเลอุรักลาโว้ยหลีเป๊ะสุดทน! ร้องรัฐคุ้มครองที่สาธารณะฯ หลังนายทุนรุกหนักไล่ที่สัญจร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - ชาวเลอุรักลาโว้ยเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล รวบรวมหลักฐานเอกสารเข้าร้องขอความคุ้มครองพื้นที่สาธารณประโยชน์ผ่าน 4 หน่วยงาน หลังถูกนายทุนบุกรุกหนักไล่ที่ปิดกั้นการสัญจร ทำชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

 
วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ฉัตรพร พระอ๊ะ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เป็นตัวแทนชาวเลอุรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ 15 คน เดินทางขึ้นฝั่ง หลังได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนบุกรุกพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนชาวเล ด้วยการปิดกั้น และหวงห้ามไม่ให้ฝังศพในสุสานดั้งเดิม ทำการก่อสร้างกำแพง และรั้วปิดกั้นเส้นทางเดินสาธารณะดั้งเดิม การเบียดบังพื้นที่จอดเรือ และซ่อมแวมเรือของชาวเล การถมคลอง และการเดินน้ำธรรมชาติ

ซึ่งเป็นการกระทำที่ส่งผลต่อชีวิตชาวเลทำให้ไม่สามารถดำรงอยู่อย่างปกติสุขได้ จึงรวบรวมหลักฐานเป็นเอกสารเข้าร้องขอให้มีการคุ้มครองพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนชาวเกาะหลีเป๊ะ ผ่าน 4 หน่วยงาน คือ ด้านนายอำเภอเมืองสตูล ผู้ว่าราชการจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล และ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูวิถีชีวิตของชาวเล

 
โดยในหนังสือมี 5 ข้อเรียกร้องด้วยกันคือ 1.ต้องการให้มีการสำรวจพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ 2.การกันแนวเขตพื้นที่สาธารณประโยชน์ 3.การประกาศพื้นที่สาธารณประโยชน์เป็นพื้นที่สาธารณะชาวเลสามารถเข้าใช้ประโยชน์ได้ 4.การให้มีการตรวจสอบพื้นที่กรณีพิพาทเร่งด่วนในนายอำเภอประสานงานกับอุทยานฯ ตรวจสอบความคลาดเคลื่อนการทับซ้อนพื้นที่ของ นายณรงค์ศักดิ์ และนางละม้าย และนายหัตติเริง โดยเร่งด่วน 5.ให้ระงับการก่อสร้างปิดทางสัญจรของชาวบ้านในระหว่างที่มีการพิสูจน์สิทธิ นางแส้หนา และนางฉลวย กับพื้นที่ชุมชนอุเส็น

 
นายทวยเทพ หาญทะเล อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 106 ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล หนึ่งในชาวเลที่เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ ยอมรับว่า รู้สึกคับแค้นใจถึงการกระทำของนายทุนที่ไม่เห็นอกเห็นใจชาวเลอย่างพวกเรา ที่ทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างไม่รู้ชะตากรรมว่าจะไปอยู่ในพื้นที่ไหน แล้วยังมาขับไล่ทางอ้อมโดยไม่ให้ใช้เส้นทางสาธารณะอีก โดยทุกวันนี้จะออกเรือสักครั้งต้องผ่านเดินลอดช่องทางเพื่อนบ้านชาวเลด้วยกัน เพราะนายทุนอ้างสิทธิจะเอาที่ดินที่เคยเป็นพื้นที่สาธารณะชาวเลไปทำรีสอร์ต ซึ่งขณะนี้พวกเขารุกหนักโดยใช้รถแบ็กโฮเข้าขุดเพื่อวางเสาเข็มปิดกั้นเส้นทางแล้ว

น.ส.พิมพา หาญทะเล อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 82 ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาถึงความรู้สึกที่คับแค้นใจ พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบเพื่อจะไม่ให้มีที่อยู่ ทั้งที่บรรพบุรุษพวกเราก็อยู่มาก่อน ทุกวันนี้จะทำมาหากินออกเรือ หรือทำกิจการอะไรก็มีแต่ถูกกลั่นแกล้งจากนายทุน โดนไล่ที่อยู่อาศัยไม่พอ นายทุนก็มาอ้างว่าขายแล้ว ชาวเลมีลูกเยอะในหนึ่งครอบครัวมี 5 คน ถูกบีบให้ขายไป 2 คนอีก 3 คนไม่ขายจู่ๆ ก็เอาปืนมาวางข่มขู่บังคับให้เซ็นชื่อ เรื่องเหล่านี้ใครรู้บ้าง ไม่มีความรู้หนังสืออ่านไม่ออก ทุกวันนี้ต้องคอยบอกพ่อบอกแม่ใครให้เซ็นอะไรอย่าไปเชื่อเขา อาจจะถูกหลอกได้อีก มีปัญหาถูกไล่ที่อยู่อาศัยไม่พอ ยังถูกถมคลองเส้นทางน้ำป้องกันน้ำท่วมในหมู่บ้าน ยิ่งสร้างความเดือดร้อน อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาดูแล และแก้ปัญหาชาวเลอย่างจริงใจ และจริงจังเสียที



 
นายเดชณรงค์ อยู่กลาง ผู้ประสานงานชาวเลอุรักลาโว้ย บอกว่า การยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ 4 หน่วยงาน โดยเฉพาะผ่าน นายจำนง จิตรนิรัตน์ อนุกรรมการฯ เพื่อส่งต่อถึง พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูวิถีชีวิตของชาวเล เพื่อช่วยแก้ปัญหา เนื่องจากขณะนี้ชาวเลกว่า 135 ครัวเรือน ต้องประสบปัญหาต่อเส้นทางสัญจร จำนวน 4 จุด ที่เคยเป็นพื้นที่สาธารณะมาในอดีต แต่ปัจจุบันกำลังจะกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างของนายทุนแล้ว

นายจำนง จิตรนิรัตน์ อนุกรรมการฯ คณะ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูวิถีชีวิตของชาวเล กล่าวว่า ในวันที่ 10 สิงหาคม 2558 นี้ จะมีการติดตามผลการการทำงานของ พล.อ.สุรินทร์ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปหารือ และแก้ปัญหา ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เข้าหารือในวันนั้นอีกครั้ง
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น