ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ผอ.ททท.หาดใหญ่” ยัน จยย.บอมบ์เมืองปาดังเบซาร์ไม่กระทบการท่องเที่ยวในภาพรวม จ.สงขลา ขณะที่นักท่องเที่ยวยังใช้บริการข้ามด่านชายแดนปกติ ด้าน ตร.เร่งสอบพยาน และสเกตช์ภาพคนร้าย ไม่ฟันธงมือบึ้มหลบหนีออกนอกประเทศแล้วหรือไม่ เผยแกนนำสั่งการอยู่ใน อ.สะบ้าย้อย และ อ.โคกโพธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ยังคงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งมาเลเซีย และสิงคโปร์เดินทางเข้าออกตามปกติ แม้จะเพิ่งเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่เมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ขณะเดียวกัน ก็มีกรุ๊ปทัวร์ทยอยเดินทางกลับมาเลเซีย แต่ก็เป็นการเดินทางกลับตามปกติของวันหยุดสุดสัปดาห์ หลังจากที่เข้ามาท่องเที่ยวใน จ.สงขลา ไม่ใช่เป็นเพราะตื่นตระหนกต่อเหตุระเบิด
นายภาณุ วรมิตร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ (สงขลา-พัทลุง) เปิดเผยว่า เหตุระเบิดที่เมืองปาดังเบซาร์ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาพรวมของ จ.สงขลา เนื่องจากปาดังเบซาร์ไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของนักท่องเที่ยว และจากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการบริษัททัวร์ทั้งใน จ.สงขลา รวมถึงในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ พบว่า ยังไม่การยกเลิกกรุ๊ปทัวร์ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทั้งระยะสั้น และระยะยาว
“โดยเฉพาะในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นเทศกาลฮารีรายอ หรือการเฉลิมฉลองการเสร็จสิ้นเดือนถือศีลอดของมุสลิม นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมถึงอินโดนีเซียยังมั่นใจในความปลอดภัย และไม่ได้ตื่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สำคัญไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิต” นายภาณุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งที่ อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยทำการชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยเฉพาะที่ปาดังเบซาร์ เนื่องจากสื่อของมาเลเซียทุกสำนักต่างนำเสนอเป็นข่าวใหญ่ อาจส่งผลในทางลบ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับบรรยากาศภายในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ กลับเข้าสู่ภาวะปรกติแล้ว หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ที่ร้านครกทองคาราโอะเกะเมื่อคืนวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย
โดยล่าสุด ได้มีการเคลียร์พื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดตลอด ถ.วงศ์ท่าเรือ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเปิดการสัญจรได้ตามปกติ ขณะที่เจ้าของบ้านเตรียมซ่อมแซมบ้าน รวมทั้งทรัพย์สินที่เสียหาย นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้เปิดศูนย์อำนวยการเยียวยาเป็นวันที่ 2 เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบมายื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือ และจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ทั้งกรณีผู้เสียชีวิต และทรัพย์สินที่เสียหาย
ส่วนความคืบหน้าในทางคดี พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์วงศ์ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วหลายปาก และเตรียมสเกตช์ภาพมือวางระเบิดที่ขับรถจักรยานยนต์บอมบ์ไปจอดตามคำบอกเล่าของพยาน และเร่งรวบรวบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการออกหมายจับ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับเบาะแสของคนร้ายเพิ่มขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ายังอยู่ในพื้นที่ หรือหนีข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนแกนนำในการลอบวางระเบิดในครั้งนี้ หน่วยข่าวด้านความมั่นคงเผยว่า เป็นแกนนำที่ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งพบว่า เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ปาดังเบซาร์ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น และเป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดหาดใหญ่ 2 จุดเมื่อปีที่แล้ว คือ 1.นายซารีซานฮัมรี ดือราแม 2.นายอิสยาซะห์ หะแย 3.นายนูรุดดิน กาจะลากี และ 4.นายสุไลมาน สาเมาะ ซึ่งยังหลบหนี