xs
xsm
sm
md
lg

สั่งป้องกันเข้มหลังระเบิด “โก-ลก-ปาดังฯ” เตือนสถานบันเทิงระวังเป็นพิเศษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยะลา - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีเหตุระเบิด และวางเพลิงใน จ.นราธิวาส และ จ.สงขลา เผยแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการทุกหน่วยเร่งสร้างความเข้าใจต่อเจ้าของกิจการ และสถานบันเทิงทุกชนิดให้เพิ่มความระมัดระวัง

วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายได้ก่อเหตุความรุนแรงด้วยระเบิด และวางเพลิง ในเขตพื้นที่เมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2558 รวม 8 จุด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 11 ราย และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

โดยพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย การใช้ระเบิดขว้างใส่ร้านครัวเจนนี่ และร้านพัฒน์เนื้อกระทะ ถนนลูกเสือนุสรณ์ 5 ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเกิดระเบิดหน้าโรงแรมท๊อปเอเชีย ตรงข้ามร้านบุษบาคาราโอเกะ ซอยประชาวิวัฒน์ 2 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย และเก็บกู้ได้ 1 จุด บริเวณหน้าโรงเรียนผดุงวิทยาเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก และเหตุเพลิงไหม้ 3 จุด บริเวณร้านสมชายอะไหล่ยนต์ ถนนประชาวิวัฒน์ ร้านไทยอุปกรณ์ก่อสร้าง ถนนประชาวิวัฒน์ ซอย 1 และร้านแสงเจริญค้าส่ง ถนนหลังตลาดเก็นติ้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมเพลิงไว้ได้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

ขณะที่พื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จำนวน 1 จุด ด้วยการใช้ระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าร้านคาราโอเกะครกทอง ในเขตเทศบาลปาดังเบซาร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย และล่าสุด ในพื้นที่ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 8 1ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าดับ

 
จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้รับทราบเหตุการณ์ในขั้นต้นแล้ว ได้แสดงความเสียใจและห่วงใยต่อญาติ และครอบครัวของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ พร้อมกับได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งคลีคลายสถานการณ์ ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนปฏิบัติด้วยความระมัดระวังตามมาตรการรักษาความปลอดภัย

โดยแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยในพื้นที่เร่งสร้างความเข้าใจต่อเจ้าของกิจการ และสถานบันเทิงทุกชนิด ซึ่งเป็นเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงให้เพิ่มความระมัดระวัง โดยให้มีระบบรักษาความปลอดภัยภายในร้าน และช่วยกันสังเกตสิ่งผิดปกติ รวมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ โดยใช้กำลังทุกภาคส่วนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบศาสนกิจของพี่น้องประชาชน รวมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นความพยายามของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มุ่งสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ตามความเชื่อที่ถูกบิดเบือนว่าจะได้ผลบุญเป็นทวีคูณ ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม และความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการให้เป็นเดือนแห่งสันติสุข ปราศจากความรุนแรง ทั้งนี้ ผู้นำศาสนา 8 องค์กรในพื้นที่ ได้ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และขอให้พี่น้องมุสลิมประกอบศาสนกิจในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนอย่างเคร่งครัด จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมกันประณามการใช้ความรุนแรงดังกล่าวอย่างกว้างขวาง เพราะถือเป็นการกระทำที่สุดโต่ง เผด็จการ และไร้มนุษยธรรม ซึ่งนอกจากได้สร้างความเดือดร้อน และความเสียหายในชีวิติ และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนแล้ว ยังเป็นการทำลายบรรยากาศการประกอบศาสนกิจในเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องมุสลิมอย่างร้ายแรง
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น