xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบังนังสตาเตรียมบูรณะพระตำหนักสุขทาลัยเป็นแหล่งเรียนรู้พระราชกรณียกิจ “สมเด็จย่า-ในหลวง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - ประชาชนในนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา เตรียมบูรณะซ่อมแซมพระตำหนักสุขทาลัย เป็นอนุสรณ์สถานให้เยาวชนได้ศึกษาพระราชกรณียกิจ “สมเด็จย่า-ในหลวง” ครั้งเสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่

วันนี้ (9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายจักรินทร์ ไหมสุข ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมเริ่มการซ่อมแซม และบำรุงบูรณะพระตำหนักสุขทาลัย ที่บ้านตลาดนิคม ม.6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อให้พระตำหนักสุขทาลัย ได้เป็นอนุสรณ์สถาน และศูนย์การศึกษาเรียนรู้พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ทรงดำเนินเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
 

 
นายจักรินทร์ ไหมสุข ผู้ปกครองนิคมฯ คนปัจจุบัน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีการดูแลบำรุงรักษาพระตำหนักสุขทาลัยมาอย่างต่อเนื่องด้วยงบประมาณที่จัดสรรมา แต่ครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมให้มีความสวยงาม ทั้งทัศนียภาพภายนอก และภายในตัวพระตำหนัก โดยทางเจ้าหน้าที่นิคมฯ ได้มีค้นหาสืบประวัติ และได้พบภาพถ่ายที่บันทึกการเสด็จเยี่ยมเยือนพสกนิกรในพื้นที่ของสมเด็จย่า และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา จึงได้มีการนำภาพการปฏิบัติพระราชกรณียกิจดังกล่าวไปจัดทำให้สวยงาม และเตรียมนำไปประดับตกแต่งภายในพระตำหนักสุขทาลัย เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของพระตำหนักสุขทาลัย แห่งนี้
 

 
โดยภาพถ่ายบางส่วนในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งเสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่ ได้นำไปประดับไว้ที่อาคารหอประชุม ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จมา

สำหรับความเป็นมาของพระตำหนักสุขทาลัยแห่งนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508 โดยนายทวีป ทวีพาณิชย์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา คนแรก เพื่อถวายแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประวัติการเสด็จพระราชดำเนิน โดยสมเด็จย่าได้เสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักแห่งนี้ถึง 6 ครั้ง เป็นเวลา 76 วัน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2510 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม-16 สิงหาคม 2528 พร้อมด้วย สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนคริทร์ และเมื่อวันที่ 28-29 กันยายน 2535 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักสุขทาลัยแห่งนี้

 
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยม และพระราชทานสิ่งของแก่พสกนิกรสมาชิกนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2510 โดยทรงมีพระราชดำรัสต่อข้าราชการ และเจ้าหน้าที่นิคมฯ ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินกลับ เป็นเวลา 12 นาที สรุปได้ดังนี้

1.ขอขอบใจที่เห็นทุกคนทำงานกันเข้มแข็ง และเสียสละอย่างจริงจัง รู้สึกว่านิคมสร้างตนเองแห่งนี้ดำเนินงานได้ผลดี น่าพอใจ

2.เห็นใจที่ต้องมาทำงานที่ท้องที่ห่างไกล ทุรกันดาร อันเป็นป่าเขาสูง การปฏิบัติงานคงจะยากลำบากมาก ขอให้ทำงานด้วยใจรัก และทำงานด้วยความเต็มใจ นอกจากนี้ นิคมยังอยู่ในเขตจังหวัดชายแดน ขอให้ช่วยกันสอดส่องดูแลสดับตรับฟังเหตุการณ์ต่างๆ ด้วย

3.พวกเราทำงานในป่าเขา และห่างไกลชุมชน ขอให้มีความสมัครสมานสามัคคีกันไว้

4.มีคนมาอยู่ที่นี่เป็นพันๆ คน จึงขอฝากบุคคลเหล่านี้ด้วย คนเหล่านี้ด้วย คนเหล่านี้น่าสงสารมาก เขาเคยประสบภัยจากแหลมตะลุมพุกมาแล้ว ยังต้องมาถูกอุทกภัยที่นี่อีก ขอให้เมตตาเขาให้มาก เอาใจใส่ดูแลช่วยเหลือให้ดี อย่าทอดทิ้งเขาเสีย แนะนำสิ่งที่ดีมีประโยชน์ให้แก่เขา

5.การทำงานในนิคม และการช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากเหล่านี้ นอกจากจะเป็นการปฏิบัติงามตามหน้าที่แล้ว ทุกคนยังได้บุญอีกด้วย ขอให้ทุกคนจงช่วยกัน

6.ขอให้ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติ เพื่อคนเหล่านี้ และเยาวชนรุ่นหลังที่จะเติบโตขึ้นมาอีก ต้องคิดเสียว่า พวกเรามาทำงานเพื่อประเทศชาติ และทำบุญด้วย

7.ที่นี่สวยมาก สมาชิกก็เป็นผู้ที่มีระเบียบเรียบร้อย ที่นี่จะเจริญ และมีคนมากขึ้น ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน และทำงานด้วยใจรัก
 

 
ก่อนที่ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินกลับออกจากนิคม ได้มีพระราชกระแสรับสั่งต่อ นายเจริญ มโนพัฒนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และรักษาการในตำแหน่งรองอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ว่า “นิคมนี้รู้สึกว่าจะดี พวกนี้น่าสงสาร เจริญ ขอฝากด้วยนะ สำคัญที่เจ้าหน้าที่ด้วย ขอให้ประชาสงเคราะห์ดูแลให้ดี”

ซึ่งการเสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ครั้งอดีตนั้น มีจำนวนหลายครั้งที่จะเสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักสุขทาลัยแห่งนี้ ด้วยบรรยากาศความร่มรื่นที่รายล้อมด้วยป่าไม้ ภูเขา ธรรมชาติ และน้ำตกสุขทาลัย ที่ทรงทอดพระเนตรเห็นได้จากบริเวณส่วนพักผ่อนจากพระตำหนักสุขทาลัย และสมเด็จย่า ได้เสด็จทอดพระเนตรน้ำตกสุขทาลัย พร้อมทั้งได้ลงนามพระนามาภิไธย “สังวาล” ไว้ที่ก้อนหินขนาดใหญ่ที่น้ำตกสุขทาลัยด้วย
 

 
นายจักรินทร์ ไหมสุข ผู้ปกครองนิคมฯ ยังบอกอีกว่า สำหรับการบูรณะซ่อมแซมสิ่งของภายในเรือนพระตำหนักที่ประทับ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา เก้าอี้ทรงงาน โต๊ะทรงงาน ตู้ เตียง ภายในห้องบรรทม สิ่งของทุกอย่างยังคงเก็บรักษาไว้ให้คงเดิม แต่ก็มีบางส่วน เช่น พื้นห้อง ฝาผนังที่ผุพังตามระยะเวลากว่า 50 ปี ก็ได้มีการซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม

ทั้งนี้ เมื่อมีการบูรณะซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้วจะจัดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ประวัติพระราชกรณียกิจ การเสด็จทรงงาน เยี่ยมเยียนพสกนิกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษา และเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับประชาชนในพื้นที่ต่อไป
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น