กระบี่ - นายอำเภอเกาะลันตา รุดเยี่ยม 3 ลูกเรือบาสที่ลอยมาติดเกาะลันตา พบอาการยังอ่อนเพลีย พร้อมกำชับฝ่ายปกครองเฝ้าระวังสอดส่องพื้นที่ คาดอาจจะมีลูกเรือถูกน้ำพัดมาติดเกาะเพิ่ม ขณะที่ ฮ.ทหารเรือเตรียมบินค้นหากระบี่
จากกรณีเรือบาสบรรทุกวัสดุก่อสร้าง และรถแบ็กโฮ ชื่อสินธุภูเก็ต 1 ซึ่งจอดทิ้งสมอเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้อง และจมทะเลเนื่องจากคลื่นลมแรง ระหว่างเกาะราชา อ.เมืองภูเก็ต กับเกาะพีพี จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่7 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีลูกเรือลอยคอในทะเล จำนวน 6 คน เจ้าหน้าที่ระดมค้นหากระทั่งพบผู้รอดชีวิตแล้ว 3 คน คือ คือนายนที กลับจิตต อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายลูเอ อายุ 20 ปี และนายแง อายุ 18 อายุ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน โดยขณะนี้ทั้ง 3 คน ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะลันตา จ.กระบี่ ล่าสุด วันนี้ (9 ก.ค.) นายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ ได้เข้าเยี่ยมเพื่อสอบถามอาการของลูกเรือบาสที่รอดชีวิตทั้ง 3 คน พบว่า ยังมีอาการอ่อนแรง ซึ่งแพทย์ยังต้องให้นอนรักษา และดูอาการต่อที่โรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายนที กลับจิตต หนึ่งในลูกเรือที่รอดชีวิตจากเหตุเรือบาสจม กล่าวว่า หลังจากเรือบาสจมทุกคนต่างก็หาที่พึ่งโดยลูกเรือทั้ง 6 คน เกาะแกลลอนที่ผูกติดกันมา แต่เมื่อลอยเกือบถึงฝั่งทุกคนต่างมีสภาพอ่อนแรง ถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดกระจัดกระจาย สำหรับตนเองนั้นเกาะแกลลอนน้ำมันลอยคอมาตามกระแสน้ำจนมาขึ้นที่หาดคลองหิน ม.5 ต.เกาะลันตาใหญ่ และได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่โชคดีที่รอดชีวิตกลับมา
ขณะที่ นายลูเอ และนายแง 2 พี่น้องชาวพม่า กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ลอยคอมาในทะเล พร้อมกับลูกเรือทั้งหมด แต่ก็ถูกคลื่นซัดเข้าใส่จนทุกคนกระจัดกระจายกันออกไป และอาศัยเกาะขอนน้ำ และแกลลอนจนถูกคลื่นซัดเข้ามาที่ชายหาดหน้าโรงแรมริเวียร่า รีสอร์ท หาดคลองโขง ม.2 ต.ศาลาด่าน ในสภาพอิดโรย มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย แขนขา ได้รับการช่วยเหลือ และนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะลันตา
นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า ในเบื้องต้น ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวสอดส่องดูแล เฝ้าดูแลพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าลูกเรือที่ยังสูญหายอีก 3 คน อาจจะถูกน้ำพัดลอยมาติดเกาะลันตาอีกก็เป็นไปได้ เพราะเท่าที่สอบถามทราบว่า ทั้งหมดเกาะแกลอนกันมาเป็นกลุ่ม และมาถูกคลื่นซัดกระจัดกระจายในช่วงที่ใกล้ถึงฝั่งแล้ว จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบ และค้นหาลูกเรือทั้ง 3 คน และขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ของทหารเรือ ได้เตรียมพร้อมอยู่ที่ นรภ.ทร.เกาะลันตาน้อยแล้ว เพื่อออกค้นหา และช่วยเหลือลูกเรือที่ยังสูญหายต่อไป
จากกรณีเรือบาสบรรทุกวัสดุก่อสร้าง และรถแบ็กโฮ ชื่อสินธุภูเก็ต 1 ซึ่งจอดทิ้งสมอเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้อง และจมทะเลเนื่องจากคลื่นลมแรง ระหว่างเกาะราชา อ.เมืองภูเก็ต กับเกาะพีพี จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่7 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีลูกเรือลอยคอในทะเล จำนวน 6 คน เจ้าหน้าที่ระดมค้นหากระทั่งพบผู้รอดชีวิตแล้ว 3 คน คือ คือนายนที กลับจิตต อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายลูเอ อายุ 20 ปี และนายแง อายุ 18 อายุ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน โดยขณะนี้ทั้ง 3 คน ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะลันตา จ.กระบี่ ล่าสุด วันนี้ (9 ก.ค.) นายสุริยัน ณรงค์กูล นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ ได้เข้าเยี่ยมเพื่อสอบถามอาการของลูกเรือบาสที่รอดชีวิตทั้ง 3 คน พบว่า ยังมีอาการอ่อนแรง ซึ่งแพทย์ยังต้องให้นอนรักษา และดูอาการต่อที่โรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายนที กลับจิตต หนึ่งในลูกเรือที่รอดชีวิตจากเหตุเรือบาสจม กล่าวว่า หลังจากเรือบาสจมทุกคนต่างก็หาที่พึ่งโดยลูกเรือทั้ง 6 คน เกาะแกลลอนที่ผูกติดกันมา แต่เมื่อลอยเกือบถึงฝั่งทุกคนต่างมีสภาพอ่อนแรง ถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดกระจัดกระจาย สำหรับตนเองนั้นเกาะแกลลอนน้ำมันลอยคอมาตามกระแสน้ำจนมาขึ้นที่หาดคลองหิน ม.5 ต.เกาะลันตาใหญ่ และได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่โชคดีที่รอดชีวิตกลับมา
ขณะที่ นายลูเอ และนายแง 2 พี่น้องชาวพม่า กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ลอยคอมาในทะเล พร้อมกับลูกเรือทั้งหมด แต่ก็ถูกคลื่นซัดเข้าใส่จนทุกคนกระจัดกระจายกันออกไป และอาศัยเกาะขอนน้ำ และแกลลอนจนถูกคลื่นซัดเข้ามาที่ชายหาดหน้าโรงแรมริเวียร่า รีสอร์ท หาดคลองโขง ม.2 ต.ศาลาด่าน ในสภาพอิดโรย มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย แขนขา ได้รับการช่วยเหลือ และนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะลันตา
นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า ในเบื้องต้น ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวสอดส่องดูแล เฝ้าดูแลพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าลูกเรือที่ยังสูญหายอีก 3 คน อาจจะถูกน้ำพัดลอยมาติดเกาะลันตาอีกก็เป็นไปได้ เพราะเท่าที่สอบถามทราบว่า ทั้งหมดเกาะแกลอนกันมาเป็นกลุ่ม และมาถูกคลื่นซัดกระจัดกระจายในช่วงที่ใกล้ถึงฝั่งแล้ว จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบ และค้นหาลูกเรือทั้ง 3 คน และขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ของทหารเรือ ได้เตรียมพร้อมอยู่ที่ นรภ.ทร.เกาะลันตาน้อยแล้ว เพื่อออกค้นหา และช่วยเหลือลูกเรือที่ยังสูญหายต่อไป