พัทลุง - เผยน้ำในทะเลสาบสงขลาลดฮวบ ทำชาวประมงใน 2 หมู่บ้าน ที่พัทลุงเดือดร้อนหนัก เพราะเกิดสันดอนจนนำเรือเข้า-ออกไม่ได้ หากใครตัดใจทิ้งไว้ในทะเลก็จะถูกลักทั้งเครื่องมือเรือ และเครื่องมือประมง ร้องจังหวัดช่วยขุดลอกมาแล้วกว่าเดือนกลับเงียบตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านริมทะเลสาบสงขลาฝั่งพัทลุง ท้องที่ ม.1 และ ม.11 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง จำนวนกว่า 130 ราย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากน้ำในทะเลสาบลดลง ทำให้เรือหางยางที่ออกไปหาปลาติดสันดอนทรายที่ตื้นเขิน ทำให้ต้องเข็นเรือทั้งขาเข้า และขาออกอย่างทุลักทะเล บางรายเอาเรือเข้าฝั่งไม่ได้ต้องจอดเรือไว้ในทะเล โดนคนร้ายขโมยเครื่องเรือ พร้อมอวนหาปลาจนเกลี้ยง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ
นายอำนวย อุกะติ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 475 ม.11 ต.นาปะขอ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านที่มีอาชีพหาปลาน้ำจืดในทะเลสาบสงขลาฝั่งพัทลุง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำทะเลลดลง ทำให้ต้องเข็นเรือหางยาวออก และเข้าฝั่งกว่า 500 เมตร ขณะเดียวกัน บางรายที่ไม่นำเรือเข้าฝั่งจอดไว้ห่างออกไปในทะเลสาบ โดนคนร้ายแอบเข้าไปขโมยเครื่องเรือ และอวนกัดหายเกลี้ยง จนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในช่วงนี้
นายอำนวย ยังกล่าวอีกว่า ชาวบ้านได้ไปร้องต่อทางอำเภอเพื่อขอให้ทางนำเครื่องมือจักรกลมาขุดร่องน้ำเพื่อให้เรือได้เข้าออกในลำคลองได้สะดวก ชาวบ้านไม่ต้องจอดเรือห่างออกไปเพื่อนำเรือไปไว้บริเวณใกล้บ้านพัก แต่ร้องไปนานแล้วทางอำเภอ และทางท้องถิ่นก็ยังไม่ได้ให้การช่วยเหลืออะไร จนชาวบ้านต้องสร้างเพิงพักผลัดเปลี่ยนกันเพื่อนอนเฝ้าเครื่องเรือ และอวนกันทุกค่ำคืน
สำหรับเครื่องเรือหางยาวราคาอยู่ที่ 23,000 บาท หากคนร้ายขโมยนำไปขายต่อจะได้ราคาเพียง 5,000-7,000 บาท และอวนกัดราคาหัวละ 2,500 บาท หากขโมยไปขายจะได้ราคาที่ 500 บาท ซึ่งชาวประมงแต่ละรายมีอวนกัดอยู่ที่ 40-50 หัว ในการประกอบอาชีพ
