ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หนุ่มกาฬสินธุ์หัวใส นำทองปลอมไปจำนำที่ร้านทองใน จ.ภูเก็ต หวังตบตาเจ้าของร้าน แต่เจ้าของร้านไหวตัวทันเพราะก่อนหน้านี้มีคนร้ายนำทองปลอมมาจำนำต่อทางร้าน จำนวน 1 เส้นแล้ว จึงควบคุมตัวจับกุมส่งตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.45 วันนี้ (2 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากร้านทองมณีมาศ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีคนร้ายเอาสร้อยคอทองคำปลอม น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น มาจำนำต่อทางร้าน ซึ่งพนักงานของร้านได้ควบคุมตัวไว้แล้วขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง รต.ท.สุรศักดิ์ พิพิธกุล รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.ท.สาริยา รัตน์พันธ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลรัษฎา
ที่เกิดเหตุภายในร้านทองมณีมาศ โครงการเคหะ ต.รัษฎา พบพนักงานของร้านกำลังควบคุมตัวชายต้องสงสัยไว้ จำนวน 1 คน ตรวจสอบทราบชื่อคือ นายสราวุธ จักเสน อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ทำการสายตรวจตำบลรัษฎา อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาพยายามฉ้อโกง พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายสราวุธ จักเสน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมเพื่อนอีก 6 คนได้มาเปิดห้องพักบริเวณ ถ.รัษฎานุสรณ์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา และมีกำหนดออกจากห้องพักในวันนี้ (2 ก.ค.) และในช่วงเวลา 10.30 น. ของวันนี้เพื่อนได้พาตนเองได้พาไปส่งที่ร้านทองเพื่อที่จะนำทองคำน้ำหนัก 2 บาทไปจำนำ ในราคา 30,000 บาท ซึ่งหลังจากเพื่อนมาส่งเพื่อก็เดินทางกลับไปรอที่ห้องพักทันที
ส่วนตนก็นั่งรอที่ร้านเรื่องให้ทางร้านสอบทองคำ แต่ปรากฏว่า ทองคำดังกล่าวเป็นทองปลอม ตนจึงพยายามวิ่งหนี แต่ถูกทางร้านจับได้ในที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้มีอีกคนชื่อ นายกร ได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ไปจำนำที่ร้านดังกล่าวมาแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมาในราคา 30,000 บาท
ขณะที่เจ้าของร้านดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.45 น. ของวันที่ 1 ก.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีชายรูปร่างผอม อายุประมาณ 20 ปี ได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท เข้ามาจำนำที่ร้านในราคา 30,000 บาท ซึ่งก่อนรับจำนำตนได้ตรวจสอบข้อต่อของสร้อยคอเส้นดังกล่าว พบว่า เป็นสร้อยคอทองคำจริง ตรวจสอบน้ำหนักก็ปกติ และมีตราที่ถูกต้องจึงรับจำนำไว้ แต่หลังจากนั้นได้ตรวจสอบสร้อยคอทั้งเส้นอีกครั้งพบว่า เป็นทองคำแท้เฉพาะข้อต่อเท่านั้น ส่วนเส้นเป็นทองคำปลอมทั้งหมดตนจึงเก็บทองคำดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (2 ก.ค.) ได้มี นายสราวุธ นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท เข้ามาจำนำอีก ซึ่งตนตรวจสอบพบว่าเป็นทองคำชุดเดียวกับกับเมื่อวานจึงได้ให้พี่ชายควบคุมตัวคนร้ายไว้ และแจ้งตำรวจเข้านำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบยังห้องพักตามที่ได้รับแจ้ง พบว่า เพื่อนของนายสราวุธ ได้เช็กเอาต์ออกไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ สีทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และจะเร่งนำสืบสวนมาดำเนินคดีมาให้โดยเร็วที่สุด
เมื่อเวลา 11.45 วันนี้ (2 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากร้านทองมณีมาศ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีคนร้ายเอาสร้อยคอทองคำปลอม น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น มาจำนำต่อทางร้าน ซึ่งพนักงานของร้านได้ควบคุมตัวไว้แล้วขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง รต.ท.สุรศักดิ์ พิพิธกุล รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.ท.สาริยา รัตน์พันธ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลรัษฎา
ที่เกิดเหตุภายในร้านทองมณีมาศ โครงการเคหะ ต.รัษฎา พบพนักงานของร้านกำลังควบคุมตัวชายต้องสงสัยไว้ จำนวน 1 คน ตรวจสอบทราบชื่อคือ นายสราวุธ จักเสน อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ทำการสายตรวจตำบลรัษฎา อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาพยายามฉ้อโกง พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายสราวุธ จักเสน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมเพื่อนอีก 6 คนได้มาเปิดห้องพักบริเวณ ถ.รัษฎานุสรณ์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา และมีกำหนดออกจากห้องพักในวันนี้ (2 ก.ค.) และในช่วงเวลา 10.30 น. ของวันนี้เพื่อนได้พาตนเองได้พาไปส่งที่ร้านทองเพื่อที่จะนำทองคำน้ำหนัก 2 บาทไปจำนำ ในราคา 30,000 บาท ซึ่งหลังจากเพื่อนมาส่งเพื่อก็เดินทางกลับไปรอที่ห้องพักทันที
ส่วนตนก็นั่งรอที่ร้านเรื่องให้ทางร้านสอบทองคำ แต่ปรากฏว่า ทองคำดังกล่าวเป็นทองปลอม ตนจึงพยายามวิ่งหนี แต่ถูกทางร้านจับได้ในที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้มีอีกคนชื่อ นายกร ได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ไปจำนำที่ร้านดังกล่าวมาแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมาในราคา 30,000 บาท
ขณะที่เจ้าของร้านดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.45 น. ของวันที่ 1 ก.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีชายรูปร่างผอม อายุประมาณ 20 ปี ได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท เข้ามาจำนำที่ร้านในราคา 30,000 บาท ซึ่งก่อนรับจำนำตนได้ตรวจสอบข้อต่อของสร้อยคอเส้นดังกล่าว พบว่า เป็นสร้อยคอทองคำจริง ตรวจสอบน้ำหนักก็ปกติ และมีตราที่ถูกต้องจึงรับจำนำไว้ แต่หลังจากนั้นได้ตรวจสอบสร้อยคอทั้งเส้นอีกครั้งพบว่า เป็นทองคำแท้เฉพาะข้อต่อเท่านั้น ส่วนเส้นเป็นทองคำปลอมทั้งหมดตนจึงเก็บทองคำดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (2 ก.ค.) ได้มี นายสราวุธ นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท เข้ามาจำนำอีก ซึ่งตนตรวจสอบพบว่าเป็นทองคำชุดเดียวกับกับเมื่อวานจึงได้ให้พี่ชายควบคุมตัวคนร้ายไว้ และแจ้งตำรวจเข้านำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบยังห้องพักตามที่ได้รับแจ้ง พบว่า เพื่อนของนายสราวุธ ได้เช็กเอาต์ออกไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ สีทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และจะเร่งนำสืบสวนมาดำเนินคดีมาให้โดยเร็วที่สุด
