ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 40 คน เข้ายึดพื้นที่นำเต็นท์วางปิดกั้นเส้นทางสาธารณะที่กลุ่มชาวไทยใหม่ราไวย์ใช้ร่วมกันมากว่า 100 ปี ทหาร ตำรวจ ฝ่ายป้องกันจังหวัดลงพื้นที่เจรจา ยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้ว พร้อมห้ามมีเหตุกระทบกระทั่ง ยิงปืนขู่ชาวบ้าน ตั้งคณะกรรมการสอบเร่งด่วนที่มาที่ไปของโฉนด
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) เรือเอกสมภพ คำคณา รอง ผบ.ชุดควบคุมทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ร่วมกับทีมป้องกันอำเภอ และจังหวัด เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์กรณีได้มีชายฉกรรจ์กว่า 40 คน เข้ามาในพื้นที่ที่พิพาทกันอยู่ระหว่างนายทุน กับชาวไทยใหม่ ณ บ้านไทยใหม่ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ได้นำเต็นท์มาวางปิดกั้นเส้นทางสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันมากว่า 100 ปี เพื่อไปประกอบอาชีพประมง และประกอบพิธีกรรม (บาลัย) พร้อมกับสั่งให้ชาวบ้านรื้อศาลาบาลัย และลอบจับปลาออกไปจากบริเวณชายหาดราไวย์ด้วย ทำให้ชาวบ้านออกมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉลอง นำโดย พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ สวป.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่นิติกรแ ละเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลราไวย์ เข้าร่วมเจรจาด้วย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่ให้บานปลายจนกระทบกระทั่งกัน โดยได้เรียกตัวแทนชาวบ้าน นำโดย นายสนิท แซ่ซั่ว และตัวแทนนายทุน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมนั่งเจรจาเพื่อให้นำเต็นท์ที่นำมากางปิดกั้นเส้นทางสาธารณะดังกล่าวออกไป การเจรจาสามารถตกลงกันได้ในระดับหนึ่งเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในเบื้องต้น โดยตัวแทนนายทุนยอมขยับเต็นท์ออกเพื่อให้ชาวไทยใหม่ราไวย์สามารถเดินเข้า-ออกได้เหมือนเดิม
เรือเอกสมภพ คำคณา รอง ผบ.ชุดควบคุมทหารเรือที่ 13 กล่าวว่า จากการเจรจาสรุปให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดตรวจสอบเร่งด่วนถึงที่มาที่ไปของเอกสารสิทธิที่นายทุนนำมาอ้างในการครอบครองพื้นที่ เพราะจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มีหลักหมุดจดทะเล และได้ขอให้ตัวแทนเจ้าของที่ดินถอนกำลังกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งมีกว่า 40 คน เป็นคนจากต่างพื้นที่ ออกจากพื้นที่พิพาทดังกล่าว ให้เหลือไว้เพียง 2-3 คนเท่านั้น ทางตัวแทนเจ้าของที่ก็ยินยอมที่จะถอนกำลังคนออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ และห้ามไม่ให้มีการกระทบกระทั่ง และห้ามไม่ให้มีการยิงปืนข่มขู่ชาวบ้านอีก ขณะที่ชาวบ้านก็ห้ามละเมิดสิทธิกันและกัน