ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หนุ่มกระแสสินธุ์สงขลา ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ก่อเหตุหน้า หจก.สรรพกิจก่อสร้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ล่าสุด ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เผยสาเหตุถูกผู้ตายบีบแตรใส่จึงเกิดความไม่พอใจ
วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบจังหวัดสงขลา นำหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ จ 328/2558 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2558 ออกสืบจับผู้ต้องหาในคดีฆ่า 2 ศพ ที่บริเวณป้อมยามของ หจก.สรรพกิจก่อสร้าง ม.8 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา
หลังจากที่ พ.ต.อ.ศักดา สืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นใครจึงได้นำกำลังออกสืบจับผู้ต้องหาไปทุกพื้นที่ที่ต้องสงสัยว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีไปกบดานหลังจากก่อเหตุแล้ว จนกระทั่งในวันนี้ นายกิจพล หรือนิก สุทธิพันธ์ อายุ 26 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 129/1 ม.1 ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมไม่ไหวจึงเข้าขอมอบตัวต่อ พ.ต.อ.ศักดา ที่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา หลังรับมอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่า ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน คุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ ในชั้นนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้า หจก.สรรพกิจก่อสร้าง ม.8 ถ.ปุณณกันฑ์-ทุ่งงาย ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ราย คือ นายศราวุธ กลับประพฆติ และนายจรูญ จันทร์คง ทั้ง 2 คน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าตามลำตัวเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และยังมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายด้วย
ส่วนสาเหตุนั้น ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถบรรทุก 6 ล้อ อยู่ที่บริเวณถนนปุณณกันฑ์-ทุ่งงาย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพบรถจักรยานยนต์ของนายกิจพล ขับอยู่ด้านหน้ารถบรรทุก 6 ล้ออย่างช้าๆ จึงทำให้ผู้ตายต้องบีบแตรไล่ จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาเมื่อถูกคนบีบแตรรถใส่ จึงเกิดความไม่พอใจขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามไปต่อว่าถึงแคมป์คนงานของ หจก.ดังกล่าว
ต่อจากนั้น จึงขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากหน้า หจก.สรรพกิจก่อสร้าง แล้วใช้มือถือโทร.ให้เพื่อนเอาอาวุธปืนมาให้ จากนั้น นายกิจพล ได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมาที่ป้อมยามของ หจก.สรรพกิจก่อสร้าง อีกครั้ง แล้วนายกิจพล จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ป้อมยาม จำนวน 7 นัด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป