สุราษฎร์ธานี - ผู้บัญชาการเรือจำสุราษฎร์ธานี ยืนยันพร้อมรักษา “หม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์” ที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก ณ ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุ่งเขน อ.กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้จะใช้พื้นที่บางส่วนสร้างเรือนจำเพิ่ม
จากรณีมีกระแสข่าวออกทางโซเชียลเน็ตเวิก ว่า ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชโบราณที่อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ และในไทยมีอยู่ 13 ชนิด โดย 2 ชนิดได้รับการขึ้นบัญชีพืชอนุรักษ์ของสนธิสัญญาไซเตส และ 1 ในนั้น คือ หม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก ณ ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุ่งเขน ตำบลพลายวาส อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสมจิตร สัจสัญญาวุฒิ ผบ.เรือนจำสุราษฎร์ธานี นำสื่อมวลชนตรวจสอบ สถานการณ์หม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุ่งเขน พื้นที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวที่พบหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ขึ้นกระจายอยู่ในพื้นที่
โดยนายสมจิตร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุกเขน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ และจะนำพื้นที่ จำนวน 100 ไร่ มาสร้างเรียนจำเพิ่มเพื่อรองรับจำนวนผู้ต้องขังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการขอยืนยันในส่วนขอต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงสายพันธุ์เสือสุราษฎร์ ที่นี่จะไม่มีวันสูญพันธุ์อย่างแน่นอน ทางเรือนจำยังคงมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง และคงไว้ตลอดไป แต่ตอนนี้เรื่องที่น่าห่วงมีกลุ่มบุคคลลักลอบเข้ามาขุดเอาไปจำหน่ายหลังมีข่าวแพร่สะพัดออกไปทางสื่อ
สำหรับพืชหม้อข้าวหม้อแกงลิง ได้ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายในส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ที่จะก่อสร้างตัวเรือนจำแห่งใหม่ออกไป รวมในพื้นที่อื่นในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานขอความร่วมมือกับทางนักวิชาการ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาลัยเขตสุราษฎร์ธานี และนักพฤกษศาสตร์ ที่มีความรู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์พืชให้ลงมาสำรวจตรวจนับพร้อมขึ้นทะเบียนให้เลขหมาย ละกำหนดพิกัดจุดที่หม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ขึ้นอยู่เดิม แล้วก็ดำเนินการวางแผนการย้ายร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลคลองชะอุ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานตามโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้กำหนดหมายเลข และจุดพิกัดต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง พร้อมทั้งดำเนินการเคลื่อนย้ายจากจุดเดิมมาสู่แปลงอนุรักษ์ที่ทางเรือนจำได้กันพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ และมีต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น จำนวน 2 ไร่ และยังมีพื้นที่ป่าเฉลิมพระเกียรติที่อยู่ติดกับแปลงอนุรักษ์อีกว่า 20 ไร่ รองรับการขยายพันธุ์ และเหตุที่ต้องรีบเร่งเคลื่อนย้ายมาตอนนี้ เนื่องสภาพอากาศเอื้ออำนวย มีฝนตกชุกพื้นที่มีการชุ่มน้ำ โดยทางเรือนจำมีเป้าหมายเคลื่อนย้ายต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง จำนวน 525 ต้น ให้มาอยู่ในพื้นที่ที่มีการอนุรักษ์อย่างเข้มข้นให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนที่จะลงมือก่อสร้างเรือนจำ ซึ่งการเคลื่อนย้ายได้เริ่มมาประมาณ 1 เดือน ผลการเคลื่อนย้ายจากจุดเดิมมาปลูกในที่แห่งใหม่ ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงมีการพื้นตัวเป็นอย่างดี
สำหรับหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ มีกระเปาะปลายใบ หรือหม้อของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง Nepenthes suratensis ที่มีลักษณะเด่น หม้อล่างใกล้พื้นดินสีแดงสดใส ต้นสูงเรียกหม้อบนมีสีเขียวอ่อน และสีแดงสด และผนังหม้อด้านนอกมีลายประสีแดง ภายในมีลายประสีม่วงคล้ายลายเสือ ทำให้หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ถูกเรียกว่า “เสือสุราษฎร์” และมีรายงานการสำรวจว่า ปัจจุบันพบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ที่ขึ้นอยู่ในธรรมชาติเพียงแห่งเดียวในโลกที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เท่านั้น
จากรณีมีกระแสข่าวออกทางโซเชียลเน็ตเวิก ว่า ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชโบราณที่อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ และในไทยมีอยู่ 13 ชนิด โดย 2 ชนิดได้รับการขึ้นบัญชีพืชอนุรักษ์ของสนธิสัญญาไซเตส และ 1 ในนั้น คือ หม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก ณ ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุ่งเขน ตำบลพลายวาส อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายสมจิตร สัจสัญญาวุฒิ ผบ.เรือนจำสุราษฎร์ธานี นำสื่อมวลชนตรวจสอบ สถานการณ์หม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุ่งเขน พื้นที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวที่พบหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ขึ้นกระจายอยู่ในพื้นที่
โดยนายสมจิตร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทุกเขน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ และจะนำพื้นที่ จำนวน 100 ไร่ มาสร้างเรียนจำเพิ่มเพื่อรองรับจำนวนผู้ต้องขังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการดำเนินการขอยืนยันในส่วนขอต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงสายพันธุ์เสือสุราษฎร์ ที่นี่จะไม่มีวันสูญพันธุ์อย่างแน่นอน ทางเรือนจำยังคงมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง และคงไว้ตลอดไป แต่ตอนนี้เรื่องที่น่าห่วงมีกลุ่มบุคคลลักลอบเข้ามาขุดเอาไปจำหน่ายหลังมีข่าวแพร่สะพัดออกไปทางสื่อ
สำหรับพืชหม้อข้าวหม้อแกงลิง ได้ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายในส่วนที่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ที่จะก่อสร้างตัวเรือนจำแห่งใหม่ออกไป รวมในพื้นที่อื่นในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานขอความร่วมมือกับทางนักวิชาการ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาลัยเขตสุราษฎร์ธานี และนักพฤกษศาสตร์ ที่มีความรู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์พืชให้ลงมาสำรวจตรวจนับพร้อมขึ้นทะเบียนให้เลขหมาย ละกำหนดพิกัดจุดที่หม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ขึ้นอยู่เดิม แล้วก็ดำเนินการวางแผนการย้ายร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลคลองชะอุ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานตามโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้กำหนดหมายเลข และจุดพิกัดต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง พร้อมทั้งดำเนินการเคลื่อนย้ายจากจุดเดิมมาสู่แปลงอนุรักษ์ที่ทางเรือนจำได้กันพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ และมีต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น จำนวน 2 ไร่ และยังมีพื้นที่ป่าเฉลิมพระเกียรติที่อยู่ติดกับแปลงอนุรักษ์อีกว่า 20 ไร่ รองรับการขยายพันธุ์ และเหตุที่ต้องรีบเร่งเคลื่อนย้ายมาตอนนี้ เนื่องสภาพอากาศเอื้ออำนวย มีฝนตกชุกพื้นที่มีการชุ่มน้ำ โดยทางเรือนจำมีเป้าหมายเคลื่อนย้ายต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง จำนวน 525 ต้น ให้มาอยู่ในพื้นที่ที่มีการอนุรักษ์อย่างเข้มข้นให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนที่จะลงมือก่อสร้างเรือนจำ ซึ่งการเคลื่อนย้ายได้เริ่มมาประมาณ 1 เดือน ผลการเคลื่อนย้ายจากจุดเดิมมาปลูกในที่แห่งใหม่ ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงมีการพื้นตัวเป็นอย่างดี
สำหรับหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ มีกระเปาะปลายใบ หรือหม้อของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง Nepenthes suratensis ที่มีลักษณะเด่น หม้อล่างใกล้พื้นดินสีแดงสดใส ต้นสูงเรียกหม้อบนมีสีเขียวอ่อน และสีแดงสด และผนังหม้อด้านนอกมีลายประสีแดง ภายในมีลายประสีม่วงคล้ายลายเสือ ทำให้หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ถูกเรียกว่า “เสือสุราษฎร์” และมีรายงานการสำรวจว่า ปัจจุบันพบต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเสือสุราษฎร์ ที่ขึ้นอยู่ในธรรมชาติเพียงแห่งเดียวในโลกที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เท่านั้น