ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จัดงานวันผู้บริจาคโลหิตโลก “บริจาคโลหิต ทุก 3 เดือน ยิ่งให้ ยิ่งได้สุขภาพดี”
เมื่อเวลา 09.40 น.วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่หน้าอาคารสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “”วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2558” “Give freely,give often.Blood donation matters-บริจาคโลหิตทุก 3 เดือน ยิ่งให้ ยิ่งได้สุขภาพดี” ซึ่งทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น เพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริจาคโลหิต อีกทั้งเพื่อเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากการได้รับโลหิตบริจาค เพื่อเป็นการกระตุ้นผู้บริจาคโลหิตประจำให้บริจาคโลหิตต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ และผู้ที่มีสุขภาพดี แต่ยังไม่เคยบริจาคโลหิต โดยเฉพาะเยาวชน ได้เริ่มต้นเป็นผู้บริจาคโลหิต
กิจกรรมภายในงาน ประธานในพิธีมอบเข็มผู้บริจาคโลหิต ครั้งที่ 48, 60, 72, 84 และ 96 ตามด้วยการมอบเกียรติบัตรแก่หน่วยงานที่สนับสนุนงานบริการโลหิตจังหวัดภูเก็ต การพูดคุยเสวนาประสบการณ์ผู้บริจาคโลหิต ภายใต้แนวคิด “Give freely,give often.Blood donation matters-บริจาคโลหิต ทุก 3 เดือน ยิ่งให้ ยิ่งได้สุขภาพดี” กิจกรรมการเล่นเกมตอบคำถาม โดยการสร้างสีสันจากดีเจซันชายน์เรดิโอ นิทรรศการวันผู้บริจาคโลหิตโลก ความรู้เรื่องการบริจาคโลหิต ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ การจารึกกำแพงแห่งมนุษยธรรม และการบริจาคโลหิต การบริจาคดวงตา อวัยวะ
นางวิภาพรรณ คูสุวรรณ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดให้วันที่ 14 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก เพื่อให้เป็นวันที่ระลึกดึง ดร.คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ ผู้ค้นพบหมู่โลหิตระบบเอบีโอ ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบที่มีความสำคัญยิ่งต่องานบริการโลหิตทั่วโลก จึงสมควรอย่างยิ่งที่สภากาชาดทั่วโลกจะได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการส่งเสริมงานด้านบริการโลหิต รวมทั้งร่วมกันเป็นผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ตามเจตนารมณ์ขององค์กรที่เกี่ยวข้องต่องานบริการโลหิต
ปี พ.ศ.2558 ได้มีการกำหนดสโลแกนงานวันผู้บริจาคโลหิตโลก คือ “Give freely, give often.Blood donation matters - บริจาคโลหิต ทุก 3 เดือน ยิ่งให้ ยิ่งได้สุขภาพดี” เพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริจาคโลหิตที่ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากการได้รับโลหิตบริจาค เพื่อเป็นการกระตุ้นผู้บริจาคโลหิตประจำให้บริจาคอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และผู้ที่มีสุขภาพดี แต่ยังไม่เคยบริจาคโลหิต โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ได้เริ่มต้นเป็นผู้บริจาคโลหิต
นางวิภาพรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกิจกรรมสนับสนุนโครงการ “ใจอาสา บริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย” เพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริจาคโลหิตในการช่วยชีวิตผู้อื่นด้วยการบริจาคโลหิต เพื่อเป็นการยกย่องผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจที่บริจาคโลหิตประจำสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ของประชาชนในวงกว้างถึงความจำเป็นในการบริจาคโลหิตประจำสม่ำเสมอ และเพื่อให้ผู้บริจาคโลหิตได้ดูแลสุขภาพของตนเองอย่างถูกวิธีเพื่อการบริจาคโลหิตที่ยั่งยืน