นราธิวาส - ทหารพรานนราธิวาส บุกทลายฐานที่มั่นผู้ก่อความไม่สงบอาร์เคเค บนเทือกเขา ก่อนปะทะเดือด รวบ 2 ผู้ต้องสงสัย ที่เหลืออาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ พบโรงเรือนปลูกสร้างกว่า 3 หลัง สั่งเจ้าหน้าที่เร่งปิดล้อมพื้นที่เพื่อติดตามจับกุม คาดคนร้ายที่เหลือยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 07.30 น. พ.อ.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และ พร้อมด้วย พ.อ.เอกธวุฒิ คงคาเขตร หัวหน้าหน่วยปฎิบัติการพิเศ พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส ได้ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4804 ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมทหารพรานที่ 41 สนธิกำลัง จำนวน 6 ชุดปฏิบัติการ ขึ้นพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาไอร์ปาแย ที่บ้านไอร์ปาแย ม.8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่า มีกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคจำนวนหนึ่งได้เคลื่อนไหวมาตั้งค่ายพักย่อยเพื่อเตรียมเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในช่วงรอมฎอน
โดยเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าจากริมถนนสายไอร์ปาแย-เจาะไอร้อง ไปเชิงเขาระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนที่จะต้องเดินขึ้นเทือกเขาที่มีความสูงชันอีก 1 กิโลเมตร ซึ่งพบกองกำลังติดอาวุธจำนวนหนึ่งกระจายอยู่ โดยคนร้ายที่ทำหน้าที่เข้าเวรยามอยู่ที่บริเวณโขดหินสูงเหนือค่ายพักย่อยเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่จึงได้ตะโกนให้พวกทราบ ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเป็นระลอกนานกว่า 10 นาที กลุ่มคนร้ายจึงได้อาศัยความชำนาญพื้นที่ยิงเบิกทาง และหลบหนีขึ้นเทือกเขาไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่พบผู้ต้องสงสัย 2 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายซะมะ สะมะแอ และนายอิบรอเฮ็ม อุมา และคนร้ายหลบหนีไปได้ 8 คน 1 ใน 8 ทราบชื่อ คือ นายสือดี ปูเต๊ะ ซึ่งมีหมาย ป.วิอาญาในคดียิงปลัด อบต.ตันหยงลิมอ เมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก พร้อมกระสุน อาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม. 1 กระบอก และปืนพกสั้นขนาด .38 พร้อมกระสุนปืน และรวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวอีก 3 หลัง โดยแต่ละหลังใช้ผ้าใบกันฝนมุงเป็นหลังคา พร้อมกับเสบียงอาหาร ภาชนะใช้สำหรับปรุงอาหาร เสื้อผ้าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ยารักษาโรค โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้ตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อัยการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานคราบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอที่ติดอยู่ตามสิ่งของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า รวมไปถึงที่พัก เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยานที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ตามที่เกิดเหตุต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ากลุ่มที่หลบหนีเคยก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง
ขณะที่ด้าน พ.อ.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 48 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกแผนปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่หลบหนีไปได้อย่างกระชั้นชิด และต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าน่าจะหลบหนีลงภาคพื้นดินเพื่อไปหลบซ่อนตัวที่บ้านพักของสมาชิกแนวร่วมหลังใดหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับบ้านบองอ อ.ระแงะ ต่อไปแล้ว
