xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจโก-ลก รวบ 2 เอเยนต์ยาเสพติดรายใหญ่ ยึดของกลางค่ากว่า 1 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นราธิวาส - เจ้าหน้าที่สุไหงโก-ลก เข้าตรวจค้นบ้านเช่าแห่งหนึ่ง พร้อมรวบตัวเอเยนต์ค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ได้ 2 ราย พร้อมของกลาง เฮโรอีน จำนวน 969 หลอดบิ๊ก ยาไอซ์ หนัก 47.85 กรัม ยาบ้า 4,000 เม็ด เบื้องต้น ผู้ต้องหาเผยของกลางเป็นของชาวมาเลเซียตนเป็นเพียงผู้เฝ้า แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ
 

 
วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.40 น. ที่ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.ต.อ.จักรพร แท่นทอง รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.ต.สมพงศ์ แก้วจุรัตน์ หน.ชุดปราบปรามยาเสพติดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว 2 เอเยนต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ประกอบด้วย น.ส.ซูไอนี สะแม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ถ.ทรายทอง 1 ซอย 12 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และนายยูฮัมยี สะแม อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน พร้อมของกลางเฮโรอีน จำนวน 969 หลอดบิ๊ก ยาไอซ์ หนัก 47.85 กรัม ยาบ้า 4,000 เม็ด อาวุธปืนพกขนาด 11 ม.ม.พร้อมกระสุน 1 กระบอก เงินสด โทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พร้อมทั้งได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน และรถ จยย. 3 คัน เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปในครั้งนี้อีกด้วย
 

 
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.ต.สมพงศ์ แก้วจุรัตน์ หน.ชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้ร่วมกับพวกเข้าตรวจค้นบ้านเช่า เลขที่ 60 ถ.ทรายทอง 1 ซอย 12 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ 2 พี่น้องได้เช่าอยู่ร่วมกัน โดยเจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสว่า เป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดรายใหญ่ของ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบของกลางยาเสพติดทั้ง 3 ชนิด ถูกซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าใส่เสื้อผ้าสีแดง และอีกส่วนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในลังกระดาษสำหรับบรรจุกาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า ที่วางอยู่ในบ้านเช่า และของกลางอื่นๆ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.สุไหงโก-ลก
 

 
ซึ่งในเบื้องต้น 2 พี่น้องต่างให้การไปในแนวทางเดียวกันว่า ยาเสพติดของกลางทั้งหมด 3 ชนิด เจ้าของเป็นชาวมาเลเซีย โดยจ้างพี่น้องทั้ง 2 คน ทำหน้าที่เฝ้ายาเสพติด ซึ่งในแต่ละเที่ยวที่ส่งมาจะได้ค่าจ้างในการเฝ้าล็อตละประมาณ 2 หมื่นบาท จนกว่าชาวมาเลเซียจะแอบขนยาเสพติดไปจำหน่ายจนหมด ซึ่งคำให้การรับสารภาพของ 2 พี่น้อง เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากได้ติดตามพฤติกรรมมาระยะหนึ่งแล้วว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษต่อไป
 

กำลังโหลดความคิดเห็น