กระบี่ - มือปืนอุกอาจบุกยิงถล่มทนายดังต่อหน้าลูกเมียหน้าบ้าน โชคดีคมกระสุนไม่ระคายผิว หนีรอดหวุดหวิด ร้องสื่อหวั่นคดีเงียบ
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเกรียงศักดิ์ สารภี อายุ 36 ปี อาชีพทนายความ อยู่บ้านเลขที่ 543/8 ม.6 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ว่า ได้ถูกคนร้ายตามเอาชีวิตถึงหน้าบ้านอย่างอุกอาจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง โดยใช้อาวุธปืนยิงถล่มเข้าใส่ขณะกลับมาจากธุระนอกบ้านพร้อมด้วยภรรยา และลูกวัย 5 ขวบ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไร่วี่แววคนร้าย เกรงจะไม่ปลอดภัยต่อชีวิต จึงต้องร้องสื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทางหนึ่ง
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยภรรยา และลูกวัย 5 ขวบ กลับมาจากทำธุระ แล้วขับรถมาจอดที่โรงจอดรถข้างบ้านซึ่งอยู่ติดกับตัวบ้าน จากนั้นตนภรรยา และลูกเดินไปที่หน้าประตูหน้าบ้าน แต่ลืมกุญแจไว้ในรถจึงได้กลับไปที่รถอีกรอบ ขณะเดียวกัน ได้มีคนร้ายคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ขับรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง มาจอดปิดหน้าประตูรั้วหน้าบ้าน โดย 1 ในคนร้ายลงมาจากรถแล้วเดินเข้ามาถามตนว่าเป็นทนายใช่หรือไม่ ตนจึงตอบว่าใช่ คนร้ายที่นั่งอยู่ในรถอีกคนซึ่งสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าก็เปิดประตูถือปืนลงมา
พร้อมใช้อาวุธปืนเล็งมาที่ตน และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนถูกที่แผ่นหลัง ด้วยความตกใจกลัวจึงได้รีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตอ้อมไปทางหลังบ้าน ส่วนคนร้ายก็ได้วิ่งตามมายิงอีก 2-3 นัด กระสุนพลาดไปโดนฐานรองโอ่งน้ำ ส่วนตนก็ได้กระโดดข้ามรั้วบ้านวิ่งหนีไปเข้าสวนยางพารา ก่อนไปหลบซ่อนตัวไปป่าละเมาะข้างที่ทำการ อบต.เหนือคลอง ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. พร้อมสำรวจตัวเองพบว่า บริเวณที่ถูกยิงไม่มีบาดแผล หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวเพื่อความปลอดภัย พร้อมแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานในวันเดียวกัน
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเชื่อว่ามาจากคดีความที่ตนกำลังว่าความให้ชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 ตำบลห้วยยูง จำนวน 5 ราย ตั้งแต่ปี 55 ได้ฟ้องร้องกรณีนายทุนเข้ามาอ้างสิทธิครอบครองที่ดินสวนปาล์ม ซึ่งเป็นที่ดิน ส.ป.ก.ประมาณ 100 ไร่ รวม 7 คดี แยกเป็นคดีแพ่ง 5 คดี คดีอาญา 2 คดี ซึ่งศาลได้พิจารณาคดีเมี่อปีที่ผ่านมา 6 คดี ซึ่งฝ่ายชาวบ้านที่เป็นลูกความตนชนะทั้ง 6 คดี และเหลืออีก 1 คดี อยู่ระว่างรอคำพิจารณาของศาลในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ จึงมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่ตนถูกตามยิงถึงในบ้านมาจากกลุ่มคู่กรณีของลูกความที่เสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตน และลูกเมียต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะกลุ่มคู่กรณีลูกความของตนมีข้าราชการตำรวจในพื้นที่ อ.เหนือคลอง รวมอยู่ด้วย แกรงว่าคนร้ายจะหวนกลับมาก่อเหตุอีก จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัย และเร่งตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว และว่าขณะนี้แม้การเดินทางไปว่าความที่ศาลก็ไม่กล้าไป เพราะกลัวจะถูกปองร้ายเอาชีวิต จึงต้องร้องเรียนสื่ออีกทางหนึ่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเกรียงศักดิ์ สารภี อายุ 36 ปี อาชีพทนายความ อยู่บ้านเลขที่ 543/8 ม.6 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ว่า ได้ถูกคนร้ายตามเอาชีวิตถึงหน้าบ้านอย่างอุกอาจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง โดยใช้อาวุธปืนยิงถล่มเข้าใส่ขณะกลับมาจากธุระนอกบ้านพร้อมด้วยภรรยา และลูกวัย 5 ขวบ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไร่วี่แววคนร้าย เกรงจะไม่ปลอดภัยต่อชีวิต จึงต้องร้องสื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทางหนึ่ง
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยภรรยา และลูกวัย 5 ขวบ กลับมาจากทำธุระ แล้วขับรถมาจอดที่โรงจอดรถข้างบ้านซึ่งอยู่ติดกับตัวบ้าน จากนั้นตนภรรยา และลูกเดินไปที่หน้าประตูหน้าบ้าน แต่ลืมกุญแจไว้ในรถจึงได้กลับไปที่รถอีกรอบ ขณะเดียวกัน ได้มีคนร้ายคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ขับรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง มาจอดปิดหน้าประตูรั้วหน้าบ้าน โดย 1 ในคนร้ายลงมาจากรถแล้วเดินเข้ามาถามตนว่าเป็นทนายใช่หรือไม่ ตนจึงตอบว่าใช่ คนร้ายที่นั่งอยู่ในรถอีกคนซึ่งสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าก็เปิดประตูถือปืนลงมา
พร้อมใช้อาวุธปืนเล็งมาที่ตน และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนถูกที่แผ่นหลัง ด้วยความตกใจกลัวจึงได้รีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตอ้อมไปทางหลังบ้าน ส่วนคนร้ายก็ได้วิ่งตามมายิงอีก 2-3 นัด กระสุนพลาดไปโดนฐานรองโอ่งน้ำ ส่วนตนก็ได้กระโดดข้ามรั้วบ้านวิ่งหนีไปเข้าสวนยางพารา ก่อนไปหลบซ่อนตัวไปป่าละเมาะข้างที่ทำการ อบต.เหนือคลอง ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. พร้อมสำรวจตัวเองพบว่า บริเวณที่ถูกยิงไม่มีบาดแผล หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวเพื่อความปลอดภัย พร้อมแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานในวันเดียวกัน
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเชื่อว่ามาจากคดีความที่ตนกำลังว่าความให้ชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 ตำบลห้วยยูง จำนวน 5 ราย ตั้งแต่ปี 55 ได้ฟ้องร้องกรณีนายทุนเข้ามาอ้างสิทธิครอบครองที่ดินสวนปาล์ม ซึ่งเป็นที่ดิน ส.ป.ก.ประมาณ 100 ไร่ รวม 7 คดี แยกเป็นคดีแพ่ง 5 คดี คดีอาญา 2 คดี ซึ่งศาลได้พิจารณาคดีเมี่อปีที่ผ่านมา 6 คดี ซึ่งฝ่ายชาวบ้านที่เป็นลูกความตนชนะทั้ง 6 คดี และเหลืออีก 1 คดี อยู่ระว่างรอคำพิจารณาของศาลในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ จึงมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่ตนถูกตามยิงถึงในบ้านมาจากกลุ่มคู่กรณีของลูกความที่เสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตน และลูกเมียต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะกลุ่มคู่กรณีลูกความของตนมีข้าราชการตำรวจในพื้นที่ อ.เหนือคลอง รวมอยู่ด้วย แกรงว่าคนร้ายจะหวนกลับมาก่อเหตุอีก จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัย และเร่งตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว และว่าขณะนี้แม้การเดินทางไปว่าความที่ศาลก็ไม่กล้าไป เพราะกลัวจะถูกปองร้ายเอาชีวิต จึงต้องร้องเรียนสื่ออีกทางหนึ่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
