ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา จำนวน 12 คน ไปที่แคมป์กักกันบนเทือกเขาแก้ว ชี้พบหลักฐานสำคัญหลายอย่างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก
วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยภายหลังนำเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา จำนวน 12 คน ไปชี้แคมป์กักกันบนเทือกเขาแก้ว ใน ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ว่า การนำผู้เสียหายมาชี้จุดในวันนี้ช่วยทำให้คดีมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากมีรายละเอียดที่บ่งชี้ได้ว่า คำให้การของพยานมีน้ำหนักมากขึ้น เช่น แคมป์แรกที่พบหลุมฝังศพ และมีศพถูกฝัง 26 ศพนั้น มีผู้คุม 8 คน และเหยื่อสามารถบอกได้ว่าใครบ้าง รวมทั้งยังพบรองเท้าผู้หญิง 2 คู่ ซึ่งเหยื่อบอกได้เช่นกันว่า เป็นของเมียผู้คุมชื่ออะไร
นอกจากนี้ ยังพบว่าแคมป์แต่ละแห่งมีรูปแบบการทำร้ายที่ชัดเจน เช่น การนำหวายตอกตะปูแล้วตีบริเวณหน้าแข้ง รวมถึงจุดที่นำตัวชาวโรฮีนจาไปผูกมัดมือไขว้หลัง และมัดติดกับต้นไม้ ก่อนใช้ไม้ทุบตีหากคิดหลบหนี หรือทำความผิดในแคมป์ นอกจากนี้ ยังมีจุดที่ใช้เป็นสถานที่ละหมาด และภายในแคมป์มีการแยกกันระหว่างหญิง และชาย รวมถึงที่พักของผู้หญิงที่จะต้องมีผู้คุมซึ่งเป็นผู้ชายร่วมอยู่ด้วย เพื่อป้องกันหนี นอกจากนี้ เหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจายังได้ชี้จุดที่ทำพิธีละหมาดศพก่อนนำไปฝัง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก
