ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และรองอธิบดีอัยการ ประชุมสรุปความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ ทั้งการสืบสวนและสอบสวน โดยมีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเพิ่มอีก 2 คน รวมทั้งเร่งสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา พร้อมทั้งเดินหน้ายึดทรัพย์ และยุทธการปิดปลายทางค้ามนุษย์
ความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ล่าสุด วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ เรือโทสมนึก เสียงก้อง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ร่วมประชุมเพื่อสรุปภาพรวมทั้งหมดของคดีทั้งในส่วนของฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสอบสวนที่มีพนักงานสอบสวนของตำรวจ และพนักงานอัยการร่วมการสอบสวน
โดยในส่วนของคดีซึ่งมีการออกหมายจับไปแล้วทั้งหมด 77 หมายจับ ล่าสุด มีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเพิ่มที่สถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์ อีก 2 คน คือ นายสะอารี เขร็ม อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และนายเจริญ ทองแดง อายุ 50 ปี ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นเครือญาติกัน และอยู่ในกลุ่มค้ามนุษย์ของ นายบรรจง ปองผล หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ ซึ่งล่าสุด ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้ว
ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ต้องหาทั้งที่เข้ามอบตัวถูกจับกุม และอายัดตัวแล้วทั้งสิ้น 51 คน เหลืออีก 26 คน ที่ยังหลบหนี นอกจากนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดส่วนใหญ่ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเฉพาะ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล ตัวการใหญ่ ซึ่งถูกแจ้งข้อหามากที่สุดถึง 12 ข้อหา โดยทั้งพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการกำลังเร่งสรุปสำนวนคดี ก่อนส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาภายในวันที่ 20 มิ.ย.นี้
ส่วนการยึดทรัพย์เครือข่ายค้ามนุษย์เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์เพิ่มเติมโดยอาทิตย์หน้า ทาง ปปง. จะลงพื้นที่เพื่อประชุมติดตามยึดทรัพย์เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.สงขลา เพิ่มเติม จากที่ยึดทรัพย์ใน จ.ระนอง และ จ.สตูล ไปแล้วกว่า 85 ล้านบาท ส่วนในด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามยุทธการปิดปลายทางนั้น เจ้าหน้าที่ยังคงเน้นงานด้านจิตวิทยาดึงมวลชนในพื้นที่เป้าหมายทั้ง จ.สงขลา จ.สตูล จ.ตรัง และ จ.ระนอง เข้ามาเป็นแนวร่วมในการแจ้งเบาะแส ซึ่งขณะนี้มีมวลชนเข้าร่วมแล้วเกือบ 1 หมื่นคน รวมถึงการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเชื่อมโยงในพื้นที่เป้าหมายที่เป็นเส้นทางการอพยพคนต่างด้าว 64 จุด โดยใช้กำลังมากกว่า 500 นาย
