สุราษฎร์ธานี - หอการค้าไทยติวเข้ม “SMEs วิธีทำเงิน” กลุ่มจังหวัดใต้ฝั่งอ่าวไทย พร้อมดันท่าเรือน้ำลึกสตูล-สงขลา เปิดการแข่งขันการค้ากับเพื่อนบ้านรับ AEC
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ทางหอการค้าไทย ร่วมกับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เปิดเวทีสัมมนา “SMEs วิธีทำเงิน” โดยมีกลุ่มนักธุรกิจและ ผู้ประกอบการด้านต่างๆ ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเข้าร่วมสัมมนาประมาณ 400 คน โดยมีนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมบรรยายในครั้งนี้ด้วย ในช่วงแรกเป็นการกล่าวถึงทิศทางยางพารา และปาล์มน้ำมันไทย
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ราคายางพารา และปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มราคาคงที่ ทั้งนี้ ชาวสวนยางพาราจะต้องเร่งปรับปรุงตัวเอง โดยทั้งในส่วนของคุณภาพ และเรื่องของแรงงาน จะหวังพึ่งแรงงานต่างด้าวคงไม่พอใช้จ่าย เจ้าของสวนยางต้องช่วยเหลือตัวเอง ที่สำคัญช่วงนี้กำลังจะเข้าสู่ AEC ต่อไปแรงงานต่างด้าวจะหันกลับไปใช้แรงงานในประเทศตัวเองได้สะดวกขึ้น
ด้าน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกยาง และปาล์ม รวมทั้งสินค้าต่างๆ ของไทยในส่วนของจำนวนปริมาณการส่งออกไม่ได้ลดลง แต่มูลค่าการลดลง อยู่ที่จีนประมาณ 13% ยุโรป 11% ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องเน้นเรื่องการผลิตเอง และแปรรูปใช้เองเพื่อลดการนำเข้า และไม่เป็นปัญหาในเรื่องของการส่งออก ที่สำคัญกำลังจะเข้าสู่ AEC ในไม่ช้านี้ จำเป็นจะต้องเร่งปรับตัว
นอกจากนั้น ยังมีการพูดถึงการผลักดันท่าเรือน้ำลึก ซึ่งทางหอฯ ยังคงติดตามการดำเนินการของภาครัฐ ทั้งในส่วนที่ของอ่าวไทย และอันดามัน โดยเฉพาะท่าเรือน้ำลึกที่ จ.สงขลาและ จ.สตูล ยังมีความจำเป็นในการขนส่งสินค้า และเชื่อมั่นว่าหากมีความเป็นไปได้จะเพิ่มช่องทางความสะดวกในการส่งออกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อกันได้กับรถไฟทางคู่ที่กำลังจะแล้วเสร็จในปี 2562นี้ อย่างไรก็ตาม อยู่ที่ภาครัฐในการผลักดัน และวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับกระแสการคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ทางหอการค้าไทย ร่วมกับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เปิดเวทีสัมมนา “SMEs วิธีทำเงิน” โดยมีกลุ่มนักธุรกิจและ ผู้ประกอบการด้านต่างๆ ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเข้าร่วมสัมมนาประมาณ 400 คน โดยมีนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมบรรยายในครั้งนี้ด้วย ในช่วงแรกเป็นการกล่าวถึงทิศทางยางพารา และปาล์มน้ำมันไทย
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ราคายางพารา และปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มราคาคงที่ ทั้งนี้ ชาวสวนยางพาราจะต้องเร่งปรับปรุงตัวเอง โดยทั้งในส่วนของคุณภาพ และเรื่องของแรงงาน จะหวังพึ่งแรงงานต่างด้าวคงไม่พอใช้จ่าย เจ้าของสวนยางต้องช่วยเหลือตัวเอง ที่สำคัญช่วงนี้กำลังจะเข้าสู่ AEC ต่อไปแรงงานต่างด้าวจะหันกลับไปใช้แรงงานในประเทศตัวเองได้สะดวกขึ้น
ด้าน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกยาง และปาล์ม รวมทั้งสินค้าต่างๆ ของไทยในส่วนของจำนวนปริมาณการส่งออกไม่ได้ลดลง แต่มูลค่าการลดลง อยู่ที่จีนประมาณ 13% ยุโรป 11% ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องเน้นเรื่องการผลิตเอง และแปรรูปใช้เองเพื่อลดการนำเข้า และไม่เป็นปัญหาในเรื่องของการส่งออก ที่สำคัญกำลังจะเข้าสู่ AEC ในไม่ช้านี้ จำเป็นจะต้องเร่งปรับตัว
นอกจากนั้น ยังมีการพูดถึงการผลักดันท่าเรือน้ำลึก ซึ่งทางหอฯ ยังคงติดตามการดำเนินการของภาครัฐ ทั้งในส่วนที่ของอ่าวไทย และอันดามัน โดยเฉพาะท่าเรือน้ำลึกที่ จ.สงขลาและ จ.สตูล ยังมีความจำเป็นในการขนส่งสินค้า และเชื่อมั่นว่าหากมีความเป็นไปได้จะเพิ่มช่องทางความสะดวกในการส่งออกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อกันได้กับรถไฟทางคู่ที่กำลังจะแล้วเสร็จในปี 2562นี้ อย่างไรก็ตาม อยู่ที่ภาครัฐในการผลักดัน และวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับกระแสการคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่
