ศูนย์ข่าวภูเก็ต - วุ่นสาวใหญ่ผู้โดยสารสายการบินไทยแอร์เอเชีย ไม่พอใจพนักงานไม่ให้เอาน้ำขึ้นเครื่อง พูดขู่ในกระเป๋ามีน้ำทำระเบิดได้ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่สายการบินเชิญผู้โดยสารลงจากเครื่อง พร้อมย้ายเครื่องบินไปยังหลุมจอดฉุกเฉิน ตรวจอย่างละเอียดไม่พบระเบิดแต่อย่างใด ล่าสุด ผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตได้แล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น วันนี้ (22 พ.ค.) เจ้าหน้าที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย และเจ้าหน้าที่สนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งมีว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้โดยสารสายการบินดังกล่าว ที่ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้นำน้ำดื่มขึ้นเครื่องบิน พูดว่า ในกระเป๋ามีน้ำทำระเบิดได้ ทางเจ้าหน้าที่สายการบิน และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต จึงตรวจสอบ และแจ้งตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อให้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น และเข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมชาย สันประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเครื่องบินลำดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีระเบิดตามที่ผู้หญิงรายดังกล่าวพูดแต่อย่างใด หลังจากนั้นในเวลา 10.47 น. วันเดียวกัน ทางสายการบินได้นำผู้โดยสารทั้งหมดออกเดินทางจากภูเก็ตไปยังสนามบินดอนเมือง
นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเครื่องบินที่โดยสารแจ้งว่าในกระเป๋ามีระเบิด เป็นเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3002 เส้นทางภูเก็ต-ดอนเมือง กำหนดออกเดินทางจากสนามบินภูเก็ต เวลา 08.40 น. วันนี้ ( 22 พ.ค.) มีผู้โดยสาร จำนวน 141 คน ลูกเรือ 6 คน แต่ขณะนั้นมีผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้หญิงพูดขึ้นมาในลักษณะที่ว่ามีน้ำทำระเบิดได้ในกระเป๋า หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้งหมด พร้อมนำเครื่องบินไปจอดยังลานจอดฉุกเฉินซึ่งอยู่บริเวณหัวทางวิ่งของสนามบินภูเก็ต เพื่อตรวจสอบหาวัตถุระเบิดตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่จากการตรวจสอบไม่พบวัตถุระเบิดตามที่รับแจ้งแต่อย่างใด
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดกลับขึ้นเครื่องบิน และออกเดินทางด้วยเครื่องบินลำดังกล่าว เพื่อเดินทางไปยังสนามบินดอนเมืองต่อไป ส่วนกรณีของผู้หญิงที่แจ้งว่ามีระเบิดบนเครื่องบิน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย ได้ควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวนว่าเข้าข่ายการทำผิดกฎหมายหรือไม่
ขณะที่ พล.ต.ต.พชร กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้หญิงที่พูดเรื่องระเบิดนั้นไม่พอใจเจ้าหน้าที่ของสายการบินที่ห้ามไม่ให้นำน้ำดื่มขึ้นเครื่องบิน ทำให้ให้โมโห และพูดออกมา ซึ่งขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งพนักงานของสายการบิน และเจ้าหน้าที่การท่า ว่า ผู้หญิงรายดังกล่าวใช้คำพูดว่าอย่างไร ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น วันนี้ (22 พ.ค.) เจ้าหน้าที่สายการบินไทยแอร์เอเชีย และเจ้าหน้าที่สนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งมีว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้โดยสารสายการบินดังกล่าว ที่ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้นำน้ำดื่มขึ้นเครื่องบิน พูดว่า ในกระเป๋ามีน้ำทำระเบิดได้ ทางเจ้าหน้าที่สายการบิน และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต จึงตรวจสอบ และแจ้งตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อให้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น และเข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมชาย สันประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเครื่องบินลำดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีระเบิดตามที่ผู้หญิงรายดังกล่าวพูดแต่อย่างใด หลังจากนั้นในเวลา 10.47 น. วันเดียวกัน ทางสายการบินได้นำผู้โดยสารทั้งหมดออกเดินทางจากภูเก็ตไปยังสนามบินดอนเมือง
นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเครื่องบินที่โดยสารแจ้งว่าในกระเป๋ามีระเบิด เป็นเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3002 เส้นทางภูเก็ต-ดอนเมือง กำหนดออกเดินทางจากสนามบินภูเก็ต เวลา 08.40 น. วันนี้ ( 22 พ.ค.) มีผู้โดยสาร จำนวน 141 คน ลูกเรือ 6 คน แต่ขณะนั้นมีผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้หญิงพูดขึ้นมาในลักษณะที่ว่ามีน้ำทำระเบิดได้ในกระเป๋า หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้งหมด พร้อมนำเครื่องบินไปจอดยังลานจอดฉุกเฉินซึ่งอยู่บริเวณหัวทางวิ่งของสนามบินภูเก็ต เพื่อตรวจสอบหาวัตถุระเบิดตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่จากการตรวจสอบไม่พบวัตถุระเบิดตามที่รับแจ้งแต่อย่างใด
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดกลับขึ้นเครื่องบิน และออกเดินทางด้วยเครื่องบินลำดังกล่าว เพื่อเดินทางไปยังสนามบินดอนเมืองต่อไป ส่วนกรณีของผู้หญิงที่แจ้งว่ามีระเบิดบนเครื่องบิน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย ได้ควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวนว่าเข้าข่ายการทำผิดกฎหมายหรือไม่
ขณะที่ พล.ต.ต.พชร กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้หญิงที่พูดเรื่องระเบิดนั้นไม่พอใจเจ้าหน้าที่ของสายการบินที่ห้ามไม่ให้นำน้ำดื่มขึ้นเครื่องบิน ทำให้ให้โมโห และพูดออกมา ซึ่งขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งพนักงานของสายการบิน และเจ้าหน้าที่การท่า ว่า ผู้หญิงรายดังกล่าวใช้คำพูดว่าอย่างไร ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น