ระนอง - ภาคเอกชนระนองไม่เห็นด้วยใช้เกาะแก่งในระนองเป็นสถานที่พักพิงชาวโรฮีนจา หวั่นกระทบต่อการท่องเที่ยว และการลงทุนอย่างแน่นอน
นางสุดาพร ยอดพินิจ ประธานหอการการค้าจังหวัดระนอง และนางกรรณิกา เอี้ยวตระกูล เลขาสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคใต้ กล่าวว่า จากกระแสข่าวปัญหาการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการลักลอบใช้แรงงานผิดกฎหมาย การเข้าไปเกี่ยวพันของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมไปถึงกระแสข่าวจัดหาสถานที่เพื่อสร้างที่พักพิงชั่วคราวให้แก่ชาวโรฮีนจา ในพื้นที่เกาะกำใหญ่ และเกาะค้างคาว จังหวัดระนอง ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นต่อจังหวัดระนอง และประเทศไทย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนก และกระแสคัดค้านอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของภาคเอกชน และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่จังหวัดระนอง กลัวผลกระทบที่ตามมานั้นย่อมเกิดปัญหาอย่างแน่นอน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นของจังหวัดระนองคือ การลงทุนของนักลงทุนจากต่างพื้นที่ หรือนักลงทุนรายใหญ่ที่เตรียมจะเข้ามาทำธุรกิจเชื่อมโยงกับพม่า จากการเตรียมพร้อมที่จะเปิดรับอาเซียนในปีหน้านี้ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายอาจจะชะลอการลงทุน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวตามเกาะเเก่งต่างๆ ในจังหวัดระนอง ได้ยกเลิกแผนการท่องเที่ยว และหันไปท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ แทน อันเป็นผลจากภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
นางกรรณิกา เอี้ยวตระกูล เลขาสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคใต้ กล่าวว่า ที่ปรากฏในข่าวว่า เมืองระนองเป็นแหล่ง หรือพื้นที่ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เป็นพื้นที่สำคัญในการค้ามนุษย์ ส่วนการท่องเที่ยวแม้ว่าจะไม่กระทบในแง่จำนวนนักท่องเที่ยวเพราะเป็นช่วงหลังฤดูท่องเที่ยว หรือเป็นช่วงโลซีซัน แต่ในแง่ความรู้สึกของนักท่องเที่ยว ความรู้สึกที่ดีที่เคยมีก็จะแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกหวาดกลัว ยิ่งทราบว่าในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น เกาะกำใหญ่ เกาะญี่ปุ่น และเกาะค้างคาว ซึ่งเป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ มีการเกี่ยวข้องต่อการค้ามนุษย์ทั้งสิ้น ก็จะทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเลมีบรรยากาศที่ไม่ค่อยจะดีนัก
นางสุดาพร ยอดพินิจ ประธานหอการการค้าจังหวัดระนอง และนางกรรณิกา เอี้ยวตระกูล เลขาสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคใต้ กล่าวว่า จากกระแสข่าวปัญหาการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการลักลอบใช้แรงงานผิดกฎหมาย การเข้าไปเกี่ยวพันของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมไปถึงกระแสข่าวจัดหาสถานที่เพื่อสร้างที่พักพิงชั่วคราวให้แก่ชาวโรฮีนจา ในพื้นที่เกาะกำใหญ่ และเกาะค้างคาว จังหวัดระนอง ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นต่อจังหวัดระนอง และประเทศไทย ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนก และกระแสคัดค้านอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของภาคเอกชน และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่จังหวัดระนอง กลัวผลกระทบที่ตามมานั้นย่อมเกิดปัญหาอย่างแน่นอน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นของจังหวัดระนองคือ การลงทุนของนักลงทุนจากต่างพื้นที่ หรือนักลงทุนรายใหญ่ที่เตรียมจะเข้ามาทำธุรกิจเชื่อมโยงกับพม่า จากการเตรียมพร้อมที่จะเปิดรับอาเซียนในปีหน้านี้ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายอาจจะชะลอการลงทุน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวตามเกาะเเก่งต่างๆ ในจังหวัดระนอง ได้ยกเลิกแผนการท่องเที่ยว และหันไปท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ แทน อันเป็นผลจากภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
นางกรรณิกา เอี้ยวตระกูล เลขาสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคใต้ กล่าวว่า ที่ปรากฏในข่าวว่า เมืองระนองเป็นแหล่ง หรือพื้นที่ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เป็นพื้นที่สำคัญในการค้ามนุษย์ ส่วนการท่องเที่ยวแม้ว่าจะไม่กระทบในแง่จำนวนนักท่องเที่ยวเพราะเป็นช่วงหลังฤดูท่องเที่ยว หรือเป็นช่วงโลซีซัน แต่ในแง่ความรู้สึกของนักท่องเที่ยว ความรู้สึกที่ดีที่เคยมีก็จะแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกหวาดกลัว ยิ่งทราบว่าในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น เกาะกำใหญ่ เกาะญี่ปุ่น และเกาะค้างคาว ซึ่งเป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ มีการเกี่ยวข้องต่อการค้ามนุษย์ทั้งสิ้น ก็จะทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเลมีบรรยากาศที่ไม่ค่อยจะดีนัก
