xs
xsm
sm
md
lg

สุดสลด ! พบพะยูนลอยตายในทะเลที่ จ.กระบี่ มีรอยถูกอวนบาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กระบี่ - สุดสลด! พะยูนสัตว์ทะเลหายาก ตายลอยอยู่ในทะเลที่ จ.กระบี่ ตรวจสอบเป็นพะยูนเพศเมีย น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม ชาวบ้านพบซากติดอยู่ในซอกหินมีรอยคล้ายเชือกอวนรัดที่หัว และครีบพาย มีบาดแผลเป็นรูลึกที่ช่วงลำคอ คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (20 พ.ค.) นายประเวช อวิรุทธพานิชย์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดกระบี่ นางสำเนียง ศรีระแก้ว ประมงอำเภอคลองท่อม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง เข้าตรวจสอบซากพะยูนเพศเมีย น้ำหนักกว่า 300 กก.ที่บริเวณท่าเทียบเรือบ้านบ่อม่วง ม.4 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังรับแจ้งจากชาวประมงว่า พบซากพะยูนลอยติดซอกหินที่บริเวณเกาะกุหรง ห่างจากท่าเทียบเรือบ่อม่วง ประมาณ 1 กม.

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านช่วยกันลากซากพะยูนขึ้นฝั่ง วัดความยาวได้ 2.5 เมตร ขนาดรอบลำตัว 1.83 เมตร ตรวจสอบในเบื้องต้นพบรอยแผลถลอกตามลำตัว โดยมีรอยคล้ายเชือกอวนรัดที่ช่วงหัว และครีบพาย และมีบาดแผลเป็นรูลึกประมาณ 5 ซม.ที่ช่วงลำคอ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5 ชม. เนื่องจากซากยังสด และยังไม่ส่งกลิ่นเหม็น

นายปรีชา ชอบชูผล อายุ 50 ปี ชาวประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นผู้ที่พบซากพะยูนดังกล่าว กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากที่ออกไปจับปลากลางทะเล และได้แล่นเรือกลับเข้าฝั่ง ก็พบว่า มีซากพะยูนติดอยู่ที่ซอกหิน ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะกุหรง จากนั้นจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน นำชาวบ้านให้ช่วยกันลากเข้ามาที่ท่าเรือบ่อม่วง ซึ่งคาดว่าน่าจะติดอวนเรือประมง แต่เจ้าของเรือไม่กล้านำขึ้นเรือเกรงว่าจะมีความผิด จึงปล่อยทิ้งที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จะได้นำซากส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายต่อไป

ด้าน นายประเวช อวิรุทธพานิชย์ หน.กลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง กล่าวว่า สำหรับพะยูนดังกล่าวคาดว่ามาหากินที่บริเวณอ่าวบ้านบ่อม่วงมีแหล่งหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ โดยเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาวประมงเคยพบฝูงพะยูนเข้ามาหากินบริเวณอ่าวบ่อม่วงหลายตัว คาดว่าสาเหตุที่ทำให้พะยูนตัวดังกล่าวตายน่าจะติดอวนเรือประมง นับเป็นพะยูนที่เสียชีวิต ตัวแรกในเขตกระบี่ปีนี้ ซึ่งจะได้ให้เครือข่ายชาวประมงช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อหาทางอนุรักษ์ต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น