ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายบุกเดี่ยวยิงโหดสาวเจ้าของร้านขายผลไม้ ใกล้วงเวียนม้าน้ำ กลางเมืองภูเก็ต กระสุนเข้าหัวอาการสาหัส ตำรวจคาดมีปัญหาส่วนตัว รู้ตัวคนร้ายแล้วมั่นใจจับได้แน่นนอน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (18 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณแผงขายผลไม้ไม่มีชื่อ ริมถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ใกล้กับวงเวียนม้าน้ำ ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ต.ราชัน พรรณไวย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ดร.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.วิชัช คงคาไหว รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ตะวัน เลขมาศ ร.ต.ต.คำนึง จันทร์เพ็ญ รองสว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นแผงขายผลไม้อยู่ริมถนนอ๋องซิมผ่าย ก่อนถึงวงเวียนม้าน้ำ 20 เมตร เห็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตกำลังให้การช่วยเหลือ นางสีรุ้ง ก่อสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/19 ม.7 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สภาพนอนหงาย สวมเสื้อแขนสั้นสีชมพูอ่อน สวมกางเกงขาสั้นสีชมพู ถูกยิงอาวุธไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณเบ้าตาด้านขวา จำนวน 1 นัด เลือดไหลนองพื้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากการตรวจสอบภายในร้านพบกล้วยขนาดใหญ่ 1 กอง และมีกระสุนตกอยู่ 1 นัด ใกล้กับโต๊ะคิดเงิน ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายผิวดำ สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ตัดทรงผมรากไทร ขับรถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่ที่ร้านของผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 รอบ เมื่อมั่นใจว่าเหยื่ออยู่ในร้านคนร้ายก็ได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ข้างร้านของเหยื่อ ก่อนที่จะเดินถืออาวุธปืนเข้าไปในร้านเมื่อเห็นเหยื่อคนร้ายก็ได้ยิงเข้าที่เบ้าตาของผู้บาดเจ็บ 1 นัด ก่อนคนร้ายจะหลบหนีออกจากร้านและขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
นายศรณ์ศิริ เนตรสว่าง อายุ 37 ปี สามีคนเจ็บ บอกว่า ขณะที่เกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ที่ร้าน โดยได้ออกไปซื้อของที่ร้านโกรเซอรรี่ เพียง 5 นาที โดยทิ้งให้ภรรยาอยู่ร้านคนเดียว จากนั้นเพื่อนข้างร้านได้โทร.มาบอกว่าภรรยาถูกยิงตนจึงรีบกลับมาดูเห็นเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือภรรยาอยู่ และตกใจเป็นอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าปัญหาการยิงครั้งนี้น่าจะเกิดมาจากปัญหาส่วนตัว และน่าจะจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนต่อไป
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (18 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณแผงขายผลไม้ไม่มีชื่อ ริมถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ใกล้กับวงเวียนม้าน้ำ ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ต.ราชัน พรรณไวย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ดร.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.วิชัช คงคาไหว รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ตะวัน เลขมาศ ร.ต.ต.คำนึง จันทร์เพ็ญ รองสว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นแผงขายผลไม้อยู่ริมถนนอ๋องซิมผ่าย ก่อนถึงวงเวียนม้าน้ำ 20 เมตร เห็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตกำลังให้การช่วยเหลือ นางสีรุ้ง ก่อสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/19 ม.7 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สภาพนอนหงาย สวมเสื้อแขนสั้นสีชมพูอ่อน สวมกางเกงขาสั้นสีชมพู ถูกยิงอาวุธไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณเบ้าตาด้านขวา จำนวน 1 นัด เลือดไหลนองพื้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากการตรวจสอบภายในร้านพบกล้วยขนาดใหญ่ 1 กอง และมีกระสุนตกอยู่ 1 นัด ใกล้กับโต๊ะคิดเงิน ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายผิวดำ สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ตัดทรงผมรากไทร ขับรถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่ที่ร้านของผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 รอบ เมื่อมั่นใจว่าเหยื่ออยู่ในร้านคนร้ายก็ได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ข้างร้านของเหยื่อ ก่อนที่จะเดินถืออาวุธปืนเข้าไปในร้านเมื่อเห็นเหยื่อคนร้ายก็ได้ยิงเข้าที่เบ้าตาของผู้บาดเจ็บ 1 นัด ก่อนคนร้ายจะหลบหนีออกจากร้านและขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
นายศรณ์ศิริ เนตรสว่าง อายุ 37 ปี สามีคนเจ็บ บอกว่า ขณะที่เกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ที่ร้าน โดยได้ออกไปซื้อของที่ร้านโกรเซอรรี่ เพียง 5 นาที โดยทิ้งให้ภรรยาอยู่ร้านคนเดียว จากนั้นเพื่อนข้างร้านได้โทร.มาบอกว่าภรรยาถูกยิงตนจึงรีบกลับมาดูเห็นเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือภรรยาอยู่ และตกใจเป็นอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าปัญหาการยิงครั้งนี้น่าจะเกิดมาจากปัญหาส่วนตัว และน่าจะจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนต่อไป
