ยะลา - ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา เชิญบรรดาผู้ประกอบการค้าในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา กว่า 200 คน เข้าร่วมประชุม หวังระดมความคิดเห็น หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา
วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องวลัยชั้น 9 โรงแรมยะลารามา นายเชษฐ์ชาณัฎฐ์ ลิ่มกาญจนา ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา ได้เชิญบรรดาผู้ประกอบการค้าในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา กว่า 200 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อระดมความคิดเห็น หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 14-16 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขา ศอ.บต. นายสามารถ วราดิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เข้าร่วมรับฟัง และตอบข้อซักถาม
นายเชษฐ์ชาณัฎฐ์ ลิ่มกาญจนา ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทางหอการค้าจึงได้เชิญผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และที่ไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งรายใหญ่ รายย่อย มาร่วมพูดคุยกับภาครัฐ เพื่อระดมความคิดเห็นในการหาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งด้านการค้าขาย และด้านความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ส่วนปัญหาการเยียวยาซึ่งผู้ได้รับผลกระทบได้เสนอว่ามีความล่าช้านั้น เนื่องจากส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องของเอกสารไม่ครบ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ทาง ศอ.บต. ก็เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาโดยเร็วที่สุด
ด้าน พล.ต.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา กล่าวในที่ประชุมว่า การวางระเบิดครั้งนี้เป็นสิ่งใหม่ ลักษณะการวางครั้งนี้ วางวันนี้ ตั้งเวลาให้ระเบิดวันไหนก็ได้ เป็นลักษณะการตั้งโทรศัพท์ในการตั้งจุดระเบิดที่สามารถตั้งเป็นสัปดาห์ เป็นวันใดของสัปดาห์ก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ยกเว้นแบตเตอรรี่มือถือหมด แต่ทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดบอกว่า ถ้าไม่เปิดเครื่อง 1 เดือน แบตก็หมด หรือถ้าเปิดเครื่องทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ แบตก็หมดเช่นกัน เพราะฉะนั้นคนร้ายจึงสามารถนำระเบิดมาวางในวันที่ 14 แล้วให้เกิดระเบิดในวันที่ 14-16 ได้
เนื่องจากเป็นระเบิดขนาดเล็กแรงดันต่ำประมาณครึ่งกิโลกรัม ใส่ในกระป๋องสเปรย์ กระป๋องนม ดินระเบิดแรงต่ำ เหมือนประทัดยักษ์ ไม่มีสะเก็ด อานุภาพทำลายไม่มี คนเจ็บส่วนใหญ่หูอื้อ มีแต่เสียง จึงอยากให้พี่น้องผู้ประกอบการค้าที่มีสินค้าภายในร้านตรวจสอบสินค้าตนเองเบื้องต้นว่ามีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ ถ้าพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
ส่วนทางด้านตัวแทนผู้ประกอบการค้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ก็ให้ความร่วมมือต่อฝ่ายเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เมื่อทางเจ้าหน้าที่มาขอก็มอบให้ทุกครั้ง แต่เวลาจะต้องไปเป็นพยานในศาล เจ้าหน้าที่กลับให้ตนเองนั่งอยู่กับผู้ต้องสงสัย ซึ่งทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ในฐานะพยานเท่าที่ควร จึงทำให้หลายๆ คน ไม่อยากให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่เร่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดโดยเร็ว