กระบี่ - จังหวัดกระบี่ ขาดงบแก้ปัญหาน้ำเสียอ่าวนาง โว เกาะพีพี ประกาศเป็นเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียแล้ว พร้อมเตรียมเสนออ่าวนาง เกาะลันตา คิวต่อไป ด้านผู้ประกอบการวอนรัฐเร่งแก้น้ำเสียก่อนสาย
นายประสาน สะมาน ส.อบต.อ่าวนาง และประธานชมรมเรือสปีดโบตอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวน้ำเสียจากสถานประกอบการในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง ไหลลงทะเล ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ นั้น ในเบื้องต้น ยังไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อ่าวนาง และเดินทางต่อไปท่องเที่ยวเกาะแก่งทางทะเลเป็นจำนวนมาก
นายประสาน กล่าวต่อว่า สำหรับน้ำเสียที่เกิดขึ้น และไหลลงทะเลในพื้นที่ ต.อ่าวนาง เป็นเพียงเฉพาะจุดเท่านั้น ไม่ได้กระจายเต็มพื้นที่เหมือนอย่างที่หลายคนเข้าใจ และเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปี แล้ว ซึ่งหลายหน่วยงานพยายามที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการแก้ไขสูงมาก ทำให้ปัญหามีมาจนถึงวันนี้ และหากว่าไม่มีการแก้ไขปัญหาที่จริงจัง ในอนาคตคงจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่อ่าวนาง ทางจังหวัดได้หาทางแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า น้ำเสียที่ถูกปล่อยทิ้งออกมามีทั้งที่ผ่านการบำบัด และไม่มีการบำบัด ซึ่งจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาติดตามตรวจสอบกันอย่างจริงจังเข้มข้นตั้งแต่วันนี้ (18 พ.ค.) เป็นต้นไป ส่วนการแก้ไขนำเสียในระยะยาวนั้น คาดว่าต้องใช้งบประมาณจำมากเกินขีดความสามารถของท้องที่ และจังหวัด
โดยได้มีการเสนอของบประมาณในการแก้ไขปัญหา ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 371 ล้านบาท โดยมีพื้นที่ดำเนินการอยู่แล้ว จำนวน 70 ไร่ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากยังขาดงบประมาณในการดำเนินการ ส่วนในการวางระบบแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเสีย ที่ผ่านมา จังหวัดได้ประสานไปยังองค์การจัดการน้ำเสียเพื่อให้ช่วยลงมาดูในพื้นที่เกาะพีพี อ่าวนาง และเกาะลันตา ด้วย โดยในส่วนของเกาะพีพี ได้มีการประกาศเป็นเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ส่วนอ่าวนาง และเกาะลันตา ยังไม่ได้มีการประกาศ ซึ่งจะได้เสนอต่อไป
นายประสาน สะมาน ส.อบต.อ่าวนาง และประธานชมรมเรือสปีดโบตอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวน้ำเสียจากสถานประกอบการในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง ไหลลงทะเล ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ นั้น ในเบื้องต้น ยังไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อ่าวนาง และเดินทางต่อไปท่องเที่ยวเกาะแก่งทางทะเลเป็นจำนวนมาก
นายประสาน กล่าวต่อว่า สำหรับน้ำเสียที่เกิดขึ้น และไหลลงทะเลในพื้นที่ ต.อ่าวนาง เป็นเพียงเฉพาะจุดเท่านั้น ไม่ได้กระจายเต็มพื้นที่เหมือนอย่างที่หลายคนเข้าใจ และเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปี แล้ว ซึ่งหลายหน่วยงานพยายามที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณในการแก้ไขสูงมาก ทำให้ปัญหามีมาจนถึงวันนี้ และหากว่าไม่มีการแก้ไขปัญหาที่จริงจัง ในอนาคตคงจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่อ่าวนาง ทางจังหวัดได้หาทางแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า น้ำเสียที่ถูกปล่อยทิ้งออกมามีทั้งที่ผ่านการบำบัด และไม่มีการบำบัด ซึ่งจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาติดตามตรวจสอบกันอย่างจริงจังเข้มข้นตั้งแต่วันนี้ (18 พ.ค.) เป็นต้นไป ส่วนการแก้ไขนำเสียในระยะยาวนั้น คาดว่าต้องใช้งบประมาณจำมากเกินขีดความสามารถของท้องที่ และจังหวัด
โดยได้มีการเสนอของบประมาณในการแก้ไขปัญหา ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 371 ล้านบาท โดยมีพื้นที่ดำเนินการอยู่แล้ว จำนวน 70 ไร่ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากยังขาดงบประมาณในการดำเนินการ ส่วนในการวางระบบแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเสีย ที่ผ่านมา จังหวัดได้ประสานไปยังองค์การจัดการน้ำเสียเพื่อให้ช่วยลงมาดูในพื้นที่เกาะพีพี อ่าวนาง และเกาะลันตา ด้วย โดยในส่วนของเกาะพีพี ได้มีการประกาศเป็นเขตพื้นที่จัดการน้ำเสียแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ส่วนอ่าวนาง และเกาะลันตา ยังไม่ได้มีการประกาศ ซึ่งจะได้เสนอต่อไป