ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ออกหมายจับผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจาเพิ่มอีก 3 คน รวมเป็น 65 คน ขณะที่ตำรวจมาเลเซียจะเดินทางเข้ามาร่วมทำงานกับตำรวจไทย เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ที่เชื่อมโยงทั้ง 2 ประเทศ
วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมแถลงถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา สตูล และระนอง
โดย พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้าเปิดเผยว่า ในทางคดีขณะได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 ราย เป็นเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง รวมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้วขณะนี้ 65 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 29 คน เหลือผู้ต้องหาที่ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมอีก 36 คน หนึ่งในนั้นคือ โกโต้ง หรือนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ อดีตนายก อบจ.สตูล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเดินทางสืบสวนติดตามจับกุม อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ต้องหาบางส่วนติดต่อขอเข้ามอบตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และจับกุมได้แล้วทั้งหมด หากสอบสวนพบว่ามีความผิดในคดีอาญาอื่นๆ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมด้วย
ส่วนความคืบหน้าการอายัดทรัพย์สินเครือข่ายค้ามนุษย์นั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้อายัดทรัพย์เครือข่ายค้ามนุษย์ 52 คน เป็นผู้ต้องหา 15 คน และที่เป็นเครือข่ายอีก 37 คน รวม 156 รายการ มูลค่า 81 ล้านบาท เป็นเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง 71 ล้านบาท และ จ.สตูล 10 ล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างการอายัดทรัพย์เครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.สงขลา เพิ่มเติมอีก ซึ่งมูลค่ารวมน่าจะเกิน 100 ล้านบาท
ส่วนจำนวนผู้อพยพที่เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลืออยู่ที่ 313 ราย แยกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 64 ราย ส่วนที่เหลือ 240 คน อยู่ระหว่างการดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมือง ในจำนวนนี้มี 48 คน ที่ศาลได้ตัดสินเสร็จแล้ว และจะส่ง ตม.ดำเนินการผลักดันกลับประเทศต่อไป ซึ่งจำนวนผู้อพยพไม่น่าจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ เพราะได้มีการลาดตระเวนตรวจสอบแนวชายแดนครอบคลุมเกือบทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการดำเนินการผลักดันกลุ่มผู้อพยพทั้งหมดอาจจะต้องใช้เวลา 3-4 เดือน
พล.ต.ต.พุทธิชาต เปิดเผยว่า สำหรับการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจานั้น ทางผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย จะส่งตำรวจมาเลเซียเข้ามาร่วมทำคดีกับตำรวจไทย โดยประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้าซึ่งจะเดินทางมาถึงในอีก 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ เนื่องจากคดีนี้มีความเชื่อมโยงกันทั้ง 2 ประเทศ มีทั้งผู้ต้องหาของไทยที่เข้าไปหลบหนีอยู่ในมาเลเซีย และผู้ต้องหาของมาเลเซียที่หลบหนีเข้ามาในฝั่งไทย ซึ่งจะมีการประสานปฏิบัติร่วมกัน