นครศรีธรรมราช - ผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ใกล้หมดวาระ จ่อทิ้งทวนโปรเจกต์ยักษ์ เตรียมใส่พานประเคนระบบประปาให้เอกชนคุม 30 ปี พุงปลิ้นมูลค่าเฉียด 6 พันล้านบาท ประชาชนเตรียมจ่ายค่าน้ำบาน ปิดตำนานประปาถูกที่สุดในประเทศไทย
วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาของการบริหารจัดการระบบประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไม่สามารถแก้ไขได้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ทำได้เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งที่มีทางเลือกหลายทางในการแก้ไข โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ได้ใช้งบประมาณไปนับร้อยล้านบาทแต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้
ล่าสุด แม้ว่าวาระการดำรงตำแหน่งของ นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช จะใกล้หมดวาระลงในช่วงเดือนมิถุนายน 2558 และยังไม่ชัดเจนถึงเงื่อนเวลาในการรักษาการตามประกาศ คสช.กลับมีการเตรียมเข็นโครงการที่เทศบาลจะต้องจ่ายเงินให้เอกชนรวมตลอดเวลา 30 ปี มีมูลค่าถึงเกือบ 6 พันล้านบาท สำหรับการโอนระบบการผลิตน้ำให้เอกชนเป็นผู้ดูแลจัดการ และแน่นอนว่าภาระของค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะตกอยู่ที่ประชาชน และครัวเรือนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง ที่เป็นผู้ใช้น้ำของการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราชกว่า 1 แสนครัวเรือน
สำหรับโครงการดังกล่าวนั้น นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้จัดทำญัตติเพื่อเตรียมยื่นเสนอต่อสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ เป็นญัตติขอความเห็นชอบให้เอกชนเข้ามาดำเนินการพัฒนาระบบประปา และจำหน่ายน้ำประปาให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และขอความเห็นชอบก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่าหนึ่งปีงบประมาณ
ส่วนสาระสำคัญของญัตติดังกล่าวนั้น ได้อ้างถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก แต่สาระสำคัญที่ถูกระบุในญัตติผู้เกี่ยวข้องต่างกังวลเมื่อพบว่า มีการเปิดให้เอกชนเป็นผู้ส่งน้ำเข้าสู่ระบบประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยเทศบาลจะต้องซื้อทุกวัน วันละไม่น้อยกว่า 4.8 หมื่น ลบ.ม. ในราคาอัตราก้าวหน้าแบบขั้นบันไดในปีแรกถึงปีที่ 2 ลบ.ม.ละ 4.90 บาท และช่วงสุดท้ายในปีที่ 26-30 ที่ 13.25 บาทต่อ ลบ.ม.ซึ่งเป็นเพียงต้นทุนที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชจะต้องจ่ายให้แก่เอกชนที่เข้ามาประมูล ส่วนการใช้น้ำจะเป็นภาระของประปาชนที่จะต้องมีอัตราราคาก้าวหน้าเช่นเดียวกัน และมีราคาที่ถีบตัวสูงกว่าปัจจุบันถึงกว่า 1 เท่าตัว
เอกสารญัตติฉบับนี้ที่มีการแนบร่างขอบเขตของงาน หรือ TOR ยังระบุสาระสำคัญที่น่าสนใจบางช่วงว่า บริษัทเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินการนั้นจะต้องมีมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท และต้องผลิต และขายน้ำประปาแก่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นเวลา 30 ปี และท้ายที่สุดของเอกสารฉบับนี้ ได้ระบุถึงวงเงินในการจัดซื้อน้ำประปาทั้งหมด โดยการประมาณจากราคากลางค่าน้ำประปาที่อัตรา 11.17 บาทต่อ ลบ.ม.เฉลี่ยการซื้อที่ 4.8 หมื่นลบ.ม.ต่อวันระยะเวลา 30 ปี รวมเป็นเงินถึง 5,870,952,000 บาท (ห้าพันแปดร้อยเจ็ดสิบล้านเก้าแสนห้าหมื่นสองพันบาท) หรือ 5.8 พันล้านบาท โดยญัตตินี้ได้เสนอโดย นายเชาวน์วัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช
ส่วนที่มาของเงินนั้นเป็นเงินงบประมาณที่ได้จากภาษีประชาชนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และเงินอุดหนุนที่จะต้องจ่ายให้แก่เอกชน ส่วนผู้ใช้น้ำจะต้องแบกรับภาระการใช้น้ำในอัตราแพงแบบขั้นบันได จากเดิมเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายประปาราคาถูกที่สุดในประเทศไทย
