ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายแดน ตรวจพบชาวโรฮิงญา ถูกลอยแพในเทือกเขาแก้ว เขตรอยต่อสตูล-สงขลาอีก 30 คน นำตัวพักฟื้น ก่อนจะคัดแยกตรวจสอบรายชื่อ เผยขึ้นฝั่งที่สตูล ก่อนจะมีนายหน้าค้านมุษย์พาไปทำงานที่มาเลเซีย 2 ปี เพื่อชดใช้แทนเงิน
วันนี้ (7 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา นำตัวชาวโรฮิงญา จำนวน 13 คน ที่ถูกปล่อยลอยแพเดินอยู่ในป่าเทือกเขาแก้ว พื้นที่ หมู่ 7 บ้านฉลุง ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งไปควบคุมที่ สภ.ทุ่งตำเสา เพื่อรอการคัดแยกหลังจากที่ได้ทำการสอบสวน และตรวจสอบรายชื่อของแต่ละคน ซึ่งทั้งหมดให้การว่า เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนชาวโรฮิงญา จำนวน 30 คน จากเกาะสอง ประเทศพม่า และนั่งเรือมาขึ้นฝั่งที่ จ.สตูล
ก่อนที่จะมีนายหน้าพาเดินป่ามาตามเทือกเขาแก้วเป็นเวลา 13 วัน เพื่อข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ถูกปล่อยทิ้งไว้ โดยทั้งหมดบอกว่า ได้รับการติดต่อจากนายหน้าว่าจะพาไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย และต้องทำงานชดใช้เงินเป็นเวลา 2 ปี ส่วนจากนี้ยังมีเพื่อนชาวโรฮิงญา อีก 17 คน ที่ยังคงพลัดหลงอยู่ในป่าเทือกเขาแก้ว และนอกจากชาวโรฮิงญากลุ่มนี้แล้ว เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยเหลือชาวโรฮิงญาอีก 17 คน ขณะเดินอยู่บริเวณเชิงเขาแก้วพื้นที่ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ และฝ่ายปกครองอำเภอรัตภูมิ ได้รับตัวไปดูแลแล้ว เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา คัดแยกว่าอยู่ในกลุ่มการค้ามนุษย์ หรือหลบหนีเข้าเมือง