กระบี่ - วุ่นทั้งเมืองหลังมีการแชร์คลิปปล้นทอง อ้างเกิดในพื้นที่กระบี่ ด้านผู้การฯ สั่งล่ามือปล่อยคลิป ทำสังคมเดือดร้อน ยืนยันไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ระบุเป็นคลิปเก่าที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ
จากกรณีมีมือเผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ความยาว 37 วินาที ซึ่งเป็นภาพขณะคนร้าย 4 คน บุกปล้นร้านทองแห่งหนึ่ง โดยมีการใช้อาวุธปืนยิง รปภ.เสียชีวิต ก่อนกวาดทองคำภายในร้านแล้วหลบหนีไปอย่างใจเย็น โดยคลิปดังกล่าวถูกอ้างว่า เหตุเกิดเมื่อเช้าวันนี้ (28 เม.ย.) ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ และคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว และส่งต่อๆ กันไปผ่านสื่อโชเชียลมีเดีย ทั้งไลน์ และเฟซบุ๊ก ทั้งในกลุ่มข้าราชการ และประชาชนทั่วไป สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้ที่ชมคลิป และมีการสอบถามกันเป็นจำนวนมาก
หลังจากมีการเผยแพร่คลิปกันอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเหนือคลอง ต้องตรวจเช็กกันวุ่นวายตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปเก่าที่มาจากต่างประเทศ แต่เมื่อมีการเผยแพร่ก็ได้สร้างความสับสนให้แก่คนในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก และมีการสอบถามกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่กองบังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ทางผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ต้องสั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ และเตือนประชาชนไม่ให้มีการเผยแพร่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหกวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเหตุเกิดขึ้นในอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ก็ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบข้อมูล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด เบื้องตน เป็นคลิปเก่าเมื่อหลายปีก่อน เหตุเกิดในประเทศฟิลิปปินส์ การปล่อยคลิปในครั้งนี้คาดว่าเป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา ตนต้องรับสายโทรศัพท์แทบไหม้ และได้ชี้แจงผู้บังคับบัญชาไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง แต่คลิปดังกล่าวยังถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว และขยายวงกว้างมากขึ้น
ตนจึงขอประกาศเตือนให้ประชาชนที่ได้รับคลิปดังกล่าวไม่ควรเผยแพร่ต่อ และหากพบเห็นคลิปที่น่าสงสัย หรือภาพที่แปลกปลอมเข้ามา ก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที และไม่ควรเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด เพราะจะสร้างความวุ่นวาย เกรงว่าจะกระทบการท่องเที่ยวได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบหาตัวผู้ปล่อยคลิปดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปต่อคนที่นำคลิปมาปล่อย เพราะสร้างความวุ่นวายให้แก่สังคม เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ และขอให้ยุติการแชร์ข้อมูลเพราะเป็นการกระทำที่ทำให้สังคมเดือดร้อน ตลอดจนมีความผิดตามกฎหมาย
จากกรณีมีมือเผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ความยาว 37 วินาที ซึ่งเป็นภาพขณะคนร้าย 4 คน บุกปล้นร้านทองแห่งหนึ่ง โดยมีการใช้อาวุธปืนยิง รปภ.เสียชีวิต ก่อนกวาดทองคำภายในร้านแล้วหลบหนีไปอย่างใจเย็น โดยคลิปดังกล่าวถูกอ้างว่า เหตุเกิดเมื่อเช้าวันนี้ (28 เม.ย.) ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตลาดอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ และคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว และส่งต่อๆ กันไปผ่านสื่อโชเชียลมีเดีย ทั้งไลน์ และเฟซบุ๊ก ทั้งในกลุ่มข้าราชการ และประชาชนทั่วไป สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้ที่ชมคลิป และมีการสอบถามกันเป็นจำนวนมาก
หลังจากมีการเผยแพร่คลิปกันอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเหนือคลอง ต้องตรวจเช็กกันวุ่นวายตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปเก่าที่มาจากต่างประเทศ แต่เมื่อมีการเผยแพร่ก็ได้สร้างความสับสนให้แก่คนในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างมาก และมีการสอบถามกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่กองบังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ทางผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ต้องสั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ และเตือนประชาชนไม่ให้มีการเผยแพร่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหกวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเหตุเกิดขึ้นในอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ก็ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบข้อมูล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด เบื้องตน เป็นคลิปเก่าเมื่อหลายปีก่อน เหตุเกิดในประเทศฟิลิปปินส์ การปล่อยคลิปในครั้งนี้คาดว่าเป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา ตนต้องรับสายโทรศัพท์แทบไหม้ และได้ชี้แจงผู้บังคับบัญชาไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง แต่คลิปดังกล่าวยังถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว และขยายวงกว้างมากขึ้น
ตนจึงขอประกาศเตือนให้ประชาชนที่ได้รับคลิปดังกล่าวไม่ควรเผยแพร่ต่อ และหากพบเห็นคลิปที่น่าสงสัย หรือภาพที่แปลกปลอมเข้ามา ก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที และไม่ควรเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด เพราะจะสร้างความวุ่นวาย เกรงว่าจะกระทบการท่องเที่ยวได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบหาตัวผู้ปล่อยคลิปดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปต่อคนที่นำคลิปมาปล่อย เพราะสร้างความวุ่นวายให้แก่สังคม เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ และขอให้ยุติการแชร์ข้อมูลเพราะเป็นการกระทำที่ทำให้สังคมเดือดร้อน ตลอดจนมีความผิดตามกฎหมาย
