พัทลุง - สงกรานต์ช่วง 7 วันอันตรายในพื้นที่ จ.พัทลุง มีตายแล้ว 3 ศพ ล่าสุด รถกระบะพุ่งชน จยย. มีผู้เสียชีวิต 1 ราย พบรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด วอนหน่วยงานรัฐทุกฝ่ายช่วยดูแลความปลอดภัย เตือนประชาชนพักผ่อนให้เพียงพอหากจะต้องขับรถ
วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า เมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีนครินทร์ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีอุบัติเหตุบริเวณจุดกลับรถก่อนถึงวัดลำกะ ม.5 ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ ฝั่งขาเข้าพัทลุง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพัทลุง ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะอีซูซุ สี บรอนทอง ป้ายทะเบียน บท 5721 พัทลุง และ รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ 110 สี น้ำเงิน-ดำ ป้ายทะเบียน ขขว 271 พัทลุง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายเวียงศักดิ์ พันธ์เศรษฐ์ ม.8 ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง
นายไพศาล ขุนศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ในฐานะฝ่ายเลขาคณะกรรมการฯ ได้รายงานว่า ในวันที่ 13 เมษายน 2558 จังหวัดพัทลุง มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 10 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน เสียชีวิตแล้ว 1 คน รวมอุบัติเหตุสะสมตั้งแต่วันที่ 9-13 เมษายน 2558 พื้นที่จังหวัดพัทลุง มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด 33 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 34 คน มีผู้เสียชีวิต 2 คน ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ และเกิดขึ้นบนถนนสายรองมากกว่าสายหลัก และล่าสุด เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายดังกล่าว
ส่วนการดำเนินการตามมาตรการ 10 รสขม 1ร. 2ส. 3ข. 4ม. มีการเรียกตรวจค้นไปทั้งหมด 22,512 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 7,093 คัน รถกระบะ 5,715 คัน รถเก๋ง 4,335 คัน รถตู้ 2,172 คัน รถบรรทุก 1,501 คัน และรถประเภทอื่นๆ 29 คัน มีการดำเนินคดีรวม 1,648 คดี แยกเป็นไม่มีใบขับขี่สูงสุด 732 ราย รองลงมาคือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 475 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 356 ราย ความเร็วเกินกำหนด 21 ราย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 19 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 17 ราย แซงในที่คับขัน 11 ราย เมาแล้วขับ 7 ราย ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ 6 ราย และขับขี่ย้อนศร 4 ราย
นางสุพิตรา กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 14 และ 15 เมษายน เป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดจะเดินทางกลับเพื่อให้ทันวันทำงานปกติวันที่ 16 เมษายน ดังนั้น ถนนสายต่างๆ ก็จะมีรถสัญจรไปมามากขึ้น จึงขอให้ทุกฝ่ายได้ช่วยกันดูแลเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก และความปลอดภัยสูงสุด ส่วนประชาชนที่ต้องขับรถจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง และตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้งาน และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้นเนื่องจากขณะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกอาจทำให้ถนนลื่น และเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
