สุราษฎร์ธานี - เจ้าหน้าที่เฝ้าพื้นที่เข้ม ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้า หลังเกิดเหตุคืบหน้าระเบิดคาร์บอมบ์ลานจอดรถเซ็นทรัล สมุย เพลิงไม้ที่โคออปสุราษฎร์ธานี เพลิงไหม้ศูนย์อาหาร และร้านค้าสหกรณ์เสียหายยับ คนเห็นเหตุการณ์ระบุมีเสียงระเบิดดังก่อนที่จะมีเพลิงลุกไหม้
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย ขณะนักท่องเที่ยวฉลองครบรอบ 1 ปี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน เป็นหญิง 4 ชาย 3 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาล เหตุเพลิงไหม้ร้านสหกรณ์ที่โคออป อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เสียหายยับ และไฟได้ลุกลามไปยังสวนอาหารจนได้รับความเสียหายด้วย โดยจุดนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ทั้ง 2 จุดห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เพื่อรอเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าเก็บหลักฐาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุของการเกิดระเบิด และเพลิงไหม้ทั้ง 2 จุด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเหตุระเบิดที่ห้างเซ็นทรัล สมุย ในเบื้องต้น พบรถกระบะยี่ห้อมาสด้า เสียหายยับเยิน พบทะเบียนเพียงแผ่นป้ายทะเบียน กย 5618 ชลบุรี ซึ่งเป็นทะเบียนปลอมตกอยู่ที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดกว่า 10 คัน ส่วนตัวอาคารได้รับความเสียหาย ได้แก่ ลิฟต์ 1 ตัว จุดจอดรถจักรยานยนต์ สำหรับแรงระเบิดกินพื้นที่กว่า 30 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวอาคาร และกันพื้นที่เกิดเหตุรอเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าเก็บรายละเอียดพยานหลักฐานต่างๆ อีกครั้ง
ส่วนที่โคออป เจ้าหน้าที่ใช้รถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าระงับเหตุ โดยการดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีเสียงระเบิดดังติดต่อกันตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ แต่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่เพื่อรอเจ้าหน้าที่เข้าเก็บรายละเอียดอีกครั้ง
ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่ชั้นวางสินค้าติดต่อกันหลายครั้ง และมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ศูนย์อาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าสหกรณ์เสียหายพังยับเยิน แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าคาดว่าจะเป็นการวางระเบิดของคนร้ายที่ต้องการก่อความวุ่นวาย แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 03.00 น. พร้อมทั้งกันพื้นที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุเพื่อให้เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บรายละเอียดพยานหลักฐาน
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย ขณะนักท่องเที่ยวฉลองครบรอบ 1 ปี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน เป็นหญิง 4 ชาย 3 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาล เหตุเพลิงไหม้ร้านสหกรณ์ที่โคออป อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เสียหายยับ และไฟได้ลุกลามไปยังสวนอาหารจนได้รับความเสียหายด้วย โดยจุดนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ทั้ง 2 จุดห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เพื่อรอเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าเก็บหลักฐาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุของการเกิดระเบิด และเพลิงไหม้ทั้ง 2 จุด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเหตุระเบิดที่ห้างเซ็นทรัล สมุย ในเบื้องต้น พบรถกระบะยี่ห้อมาสด้า เสียหายยับเยิน พบทะเบียนเพียงแผ่นป้ายทะเบียน กย 5618 ชลบุรี ซึ่งเป็นทะเบียนปลอมตกอยู่ที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดกว่า 10 คัน ส่วนตัวอาคารได้รับความเสียหาย ได้แก่ ลิฟต์ 1 ตัว จุดจอดรถจักรยานยนต์ สำหรับแรงระเบิดกินพื้นที่กว่า 30 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวอาคาร และกันพื้นที่เกิดเหตุรอเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าเก็บรายละเอียดพยานหลักฐานต่างๆ อีกครั้ง
ส่วนที่โคออป เจ้าหน้าที่ใช้รถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าระงับเหตุ โดยการดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีเสียงระเบิดดังติดต่อกันตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ แต่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่เพื่อรอเจ้าหน้าที่เข้าเก็บรายละเอียดอีกครั้ง
ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่ชั้นวางสินค้าติดต่อกันหลายครั้ง และมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ศูนย์อาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าสหกรณ์เสียหายพังยับเยิน แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าคาดว่าจะเป็นการวางระเบิดของคนร้ายที่ต้องการก่อความวุ่นวาย แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 03.00 น. พร้อมทั้งกันพื้นที่เกิดเหตุไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุเพื่อให้เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บรายละเอียดพยานหลักฐาน
