นครศรีธรรมราช - ตำรวจกองปราบปราม หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด ลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายผู้มีอิทธิพล 19 จุด ใน 2 อำเภอของ จ.นครศรีฯ เพื่อสืบหาหลักฐานหลังจากกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเจ้าหน้าที่ที่ร้านค้าหน้าป้อมตำรวจบ้านควนดินแดง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากการตรวจค้นอาวุธปืนเถื่อนเพียบ
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด จำนวน 60 นาย ประสานกับ พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.นปพ.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.อ.ธมนูญ ใฝจู ผกก.สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สนธิร่วมกับสถานีตำรวจภูธรรวม 5 อำเภอ จำนวนกว่า 200 นาย เข้าทำการลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายผู้มีอิทธิพล 19 จุด ใน 2 อำเภอ คือ อ.ชะอวด และ อ.จุฬาภรณ์
โดยกำลังเจ้าหน้าที่บุกเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพล เช่น บ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น หลังกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเจ้าหน้าที่ที่ร้านค้าหน้าป้อมตำรวจบ้านควนดินแดง ม.10 ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด เมื่อคืนวันที่ 28 มี.ค.58 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายบุญพา ทองจันทร์แก้ว อายุ 62 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.เกาะขันธ์ และนายทวิช ด้วงมัน อายุ 51 ปี อส.ตร.และบาดเจ็บ 4 คน คือ ร.ต.ท.ไสว อินทร์นิมิต อายุ 56 ปี หัวหน้าป้อมตำรวจบ้านควนดินแดง นางประคอง เรืองศรี อายุ 62 ปี นายวิชาญชัย หนูเกตุ อายุ 16 ปี และนายพีรยุทธ สุกใส อายุ 18 ปี
ส่วนเป้าหมายของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนั้นพุ่งไปที่ ร.ต.ท.ไสว สาเหตุมาจากแก๊งยาเสพติดโกรธแค้นที่ถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างหนัก แต่จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ คดียังไม่คลี่คลาย ตำรวจกองปราบจึงลงพื้นที่สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายซึ่งคาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการก่อคดียิงเจ้าหน้าที่ รวมทั้งกวาดล้างยาเสพติด และอาวุธสงครามรวม 19 จุด ใน 2 อำเภอ ซึ่งพบว่าแก๊งค้ายาเสพติด 2 กลุ่มหักหลังกันเอง ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มกัน แต่ไม่มีการแจ้งความต่อตำรวจ เพราะต่างฝ่ายต่างทำธุรกิจผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นเป้าหมายทั้ง 19 จุดแต่ละจุดมีความเชื่อมโยงกัน โดยมีการค้นพบอาวุธปืนทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมาย โดย 4 เป้าหมายจากทั้งหมด 19 เป้านั้นพบว่า มีการครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต หรืออาวุธปืนเถื่อน และที่เหลือนั้นมีการครอบครองอาวุธปืนไม่ตรงกับทะเบียน ทั้ง 19 เป้าหมายนั้นอยู่ในกลุ่มของการค้ายาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และพัวพันมือปืนรับจ้าง การตรวจค้นพบข้อมูลสำคัญที่เชื่อมโยงกับคดียิงถล่มตำรวจด้วยอาวุธสงคราม
ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น การสืบสวนสอบสวนยังคงขยายผลอย่างละเอียด โดยส่วนหนึ่งอยู่ในกรอบประเด็นของความโกรธแค้นเจ้าหน้าที่ที่ทำการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ ผกก.5ป.กล่าว