กรมอุทยานฯ ลงตรวจปัญหาชาวบ้านถูกรุกที่ดินพื้นที่หมู่เกาะเภตรา จ.สตูล

สตูล - กรมอุทยานฯ หมู่เกาะเภตรา จ.สตูล ลงพื้นที่เกาะบุโหลนเล และเกาะบุโหลนดอน ตรวจสอบปัญหากรณีชาวบ้านอ่าวมะม่วง จำนวน 15 ครอบครัว ร้องเรียนถูกรุกที่ดินทำกิน ชาวบ้านเผยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานานแล้ว เตรียมนำข้อมูลทั้งหมดเพื่อวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศหาข้อยุติ

วันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ลงสำรวจในกรณีชาวบ้านอ่าวมะม่วง ร้องเรียนจำนวน 15 ครอบครัว ที่ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราอ้างว่า ได้บุกรุกพื้นที่อุทยานใช้ทำที่อยู่อาศัย พร้อมเร่งตามเรื่องคดีที่ดินบนเกาะที่มีปัญหาทั้ง 2 เกาะ คือ เกาะบุโหลนเล และเกาะบุโหลนดอน หมู่ที่ 3 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ที่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

สำหรับเกาะบุโหลนเล และเกาะบุโหลนดอน ที่อยู่ใกล้ๆ กันเป็นพื้นที่สวยงาม ถือเป็นหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา แต่พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ดินไม่ชอบธรรมตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ได้ทำการตรวจสอบสิทธิแล้วพบว่า ทั้ง 2 เกาะอยู่ในกระบวนการสอบสวนสิทธิ 83 ราย 96 แปลง เป็นที่ดิน 756 ไร่ 3 งาน 15 ตารางวา ส่วนที่เป็นสิ่งปลูกสร้างมีทั้งหมด 11 ราย ประมาณ 7 ไร่ และใช้มาตรา 22 รื้อไปแล้ว 1 แปลงก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือทั้งหมดนี้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบหาความจริงว่าถูกต้องหรือไม่

นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ในส่วนที่มีเอกสารสิทธิจะดำเนินการในเรื่องของการเร่งรัดในการปฏิบัติ ทั้งเรื่องพนักงานสอบสวนส่งสำนวนไปยังอัยการ ให้ช่วยในการเร่งรัดคดี แต่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่มีเอกสารสิทธิ ก็จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ตามมาตราที่ 22 เพราะมันเป็นอำนาจทำคู่ขนานกันไปได้ ส่วนเจ้าของที่ดินที่อ้างว่าถูกต้อง เราก็พร้อมที่จะรับฟังไปพร้อมๆ กัน หากพบว่าผิดยังฝืนอยู่ฝืนก่อสร้าง หรืออยู่อาศัยเราก็ต้องต่อสู้กันในชั้นศาล และตามกฎหมายต่อไป

ส่วนปัญหาพื้นที่ชาวบ้านที่อ้างว่าตนเป็นชาวเลอาศัยมาก่อนเราก็ต้องตรวจสอบที่มาที่ไป ซึ่งในวันนี้เราได้เอาข้อมูลพื้นที่ดินทางอากาศไปส่งผลอ่าน หรือแปลตีความวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ และพบว่า เป็นป่าอุดสมบูรณ์ แต่เพื่อความเป็นธรรมเรายังเปิดให้เจ้าของที่อ้างกรรมสิทธิ์ให้เข้ามาชี้แจง หรือจะร้องฟ้องตามกฎหมายก็ได้