ชาวพุทธจากพื้นที่ จชต. ร่วมปฏิบัติธรรม ศึกษาสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย

ยะลา - คณะชาวพุทธผู้แสวงบุญโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรม ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรม และศึกษาแหล่งสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย และเนปาล ชมหลักศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช ชมพิพิธภัณฑ์สารนาถประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่เก่าแก่ และงดงามที่สุดในโลก

วานนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศอินเดีย คณะผู้แสวงบุญจากโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมเดินทางไปปฏิบัติธรรม และศึกษาแหล่งสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล ของ ศอ.บต. ได้เดินทางสู่สารนาถ ซึ่งเป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3 (1 ใน 4 แห่งของชาวพุทธ) ตั้งห่างจากเมืองพาราณสี เมืองศูนย์กลางทางศาสนาของศาสนาฮินดู ไปทางเหนือราว 9 กิโลเมตร อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียในปัจจุบัน หรือแคว้นกาสี ชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล เป็นจุดหมายปลายทางของชาวพุทธที่มาเยือนอินเดียเพื่อตามรอยพระพุทธองค์ เป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5

นมัสการเจาคันธีสถูป สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงพบปัญจวัคคีย์ และสถานที่เกิดพระรัตนตรัยขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก นมัสการพระคันธกุฏิ กุฏิที่พระพุทธองค์จาพรรษาเป็นพรรษาแรกหลังจากตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ชมหลักศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราชอันเป็นหลักฐานสำคัญสื่อให้รู้ว่า เป็นสถานที่พระพุทธองค์ได้แสดงปฐมเทศนาเป็นครั้งแรก ชมยะสะเจดีย์ สถานที่ยะสะกุลบุตร พบพระพุทธองค์ แล้วชมสังฆารามกุฏิสงฆ์กว่า 1,000 หลัง

หลังจากนั้น คณะฯ ได้เดินทางชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่เก่าแก่ และงดงามที่สุดในโลก พระพุทธรูปองค์นี้ได้ส่งประกวดระดับโลก และชนะเลิศมาแล้วหลายครั้ง ที่ผนังด้านหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นที่ตั้งธรรมจักร (Wheel of Law) ตรงกลางประดิษฐานภาพพระพุทธองค์ปางสมาธิ และพิพิธภัณฑ์ที่สารนาถยังเป็นที่เก็บรักษาเสาหัวสิงห์ 4 ทิศ (Lion-Capital) ซึ่งเดิมประดิษฐานอยู่บนยอดเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช แต่หักลงมาปัจจุบัน ประเทศอินเดียใช้หัวสิงห์นี้เป็นตราราชการประจำแผ่นดินอินเดีย

ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ มีปรากฏอยู่ในธนบัตร-ธงชาติของประเทศอินเดียซึ่งเริ่มใช้ในอินเดียมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 ซึ่งเป็นปีที่อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ และข้อความจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่จารึกไว้ใต้หัวสิงห์ดังกล่าว คือ สตฺยเมว ชยเต หมายถึง ความจริงชนะทุกสิ่งได้ถูกนำมาเป็นคำขวัญประจำชาติของประเทศอินเดียอีกด้วย

ต่อมา ในเวลา 13.00 น. คณะผู้แสวงบุญได้เดินทาง สู่เมืองกุสินารา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 1 ใน 4 ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวา เป็นที่ตั้งของสาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน และเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า มาถากุนวะระกาโกฏ ซึ่งแปลว่า ตำบลเจ้าชายสิ้นชีพ