xs
xsm
sm
md
lg

นักท่องเที่ยวดำน้ำที่กระบี่ พบรูปหล่อ ร.5 จมอยู่ในคลองสระแก้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กระบี่ - ตะลึง พบรูปหล่อบูชารัชกาลที่ 5 จมอยู่ใต้น้ำคลองสระแก้ว ต.เขาทอง จ.กระบี่ ใกล้ที่ตั้งวัดเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติดำเจอ ด้านนายอำเภอระบุยังไม่ทราบอายุที่แน่ชัด พร้อมประสานกรมศิลปากรตรวจสอบ

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพบรูปหล่อรัชกาลที่ 5 จมอยู่ใต้น้ำที่บริเวณคลองสระแก้ว ม.1 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยนายจเร พวงนุ่น กำนันตำบลเขาทอง ได้นำไปมอบให้ นายมานะ จรุงเกียรติขจร นายอำเภอเมืองกระบี่ ไปเก็บรักษาไว้ที่ว่าการอำเภอเมืองกระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่ห้องทำงานของนายอำเภอเมืองกระบี่ พบรูปหล่อองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ท่าประทับบนบัลลังก์ ทำจากโลหะไม่ทราบชนิด สีดำสภาพเก่า ความสูงประมาณ 30 ซม. กว้าง ประมาณ 15 ซม.น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ที่ด้านหน้าฐาน เขียนว่า พระปิยมหาราชรัชกาลที่ 5 ด้านหลังมีตราสัญลักษณ์บางอย่าง และมีอักษรย่อว่า ท.ต.น. ซึ่งไม่สามรถระบุได้ว่าสร้างขึ้นเมื่อไหร่ และเป็นโลหะชนิดใด

นายมานะ กล่าวถึงที่มาขอรูปหล่อดังกล่าว ว่า เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวคลองสระแก้ว และลงไปดำน้ำที่บริเวณสระใหญ่ อยู่ด้านบนคลองสระแก้วลึกประมาณ 50 เมตร กระทั่งพบกับรูปหล่อ ร.5 จึงนำมาให้ชาวบ้านดู สร้างความประหลาดใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก และร่ำลือกันต่างๆ นานาว่า เป็นของเก่าแก่โบราณ

จากนั้นนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวก็ได้นำกลับไปที่จังหวัดหวัดภูเก็ต ต่อมา ทางนายจเร พวงนุ่น กำนันตำบลเขาทอง ก็ได้ประสานขอให้นำมาคืนเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า และชาวบ้านเรียกร้องให้นำกลับมาไว้ที่เดิม นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจึงได้นำมาคืนให้แต่โดยดี ก่อนที่จะนำมามอบให้ทางอำเภอเก็บรักษาไว้ เพื่อรอการตรวจสอบว่ารูปหล่อดังกล่าวเป็นชนิดใด โดยได้ประสานทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เดินทางมาตรวจพิสูจน์ในวันพรุ่งนี้ จึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก

อย่างไรก็ตาม หลังชาวบ้านในพื้นที่ทราบข่าวก็เดินทางไปที่คลองสระแก้วจำนวนมาก เพื่อต้องการดูรูปหล่อรัชกาลที่ 5 ที่ถูกนำขึ้นมาจากคลองดังกล่าว และเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะคลองสระแก้ว เป็นสถานที่ตั้งวัดเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี แต่ก็ต้องกลับไปด้วยความผิดหวัง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ได้นำไปเก็บไว้ที่อำเภอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น