จ่อยิงพ่อค้ารับซื้อน้ำยางเมืองลุงดับอนาถต่อหน้าลูก-เมีย คาดเป็นการฆ่าล้างแค้น

พัทลุง - 3 คนร้ายขับวีโก้ ก่อนก่อเหตุยิงพ่อค้ารับซื้อน้ำยางสดรายใหญ่ชาว จ.พัทลุง กระสุนเข้าบริเวณศีรษะ และลำตัวหลายนัด ดับอนาถต่อหน้าลูก และภรรยา เชื่อสาเหตุจากการฆ่าล้างแค้น เนื่องจากผู้ตายเคยก่อเหตุยิงทหารพรานเสียชีวิต หรือความขัดแย้งส่วนตัว

วันนี้ (30 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลา 18.15 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท. สุนทร ยิ่งคง ร้อยเวร สภ.โคกชะงาย จ.พัทลุง รับแจ้งได้เกิดเหตุคนร้าย 3 คน ขับรถยนต์กระบะโตโยต้ารุ่นวีโก้สีดำ แบบ 4 ประตู ใช้อาวุธปืนยิงพ่อค้ารับชื้อน้ำยางพาราสดเสียชีวิต โดยเหตุเกิดริมถนนคลองชลประทาน สายนาท่อม-ลำพาย ท้องที่ ม.7 ต.โคกชะงาย หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง และเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยพัทลุง

ในที่เกิดเหตุข้างบ้านที่กำลังยกเสาสร้างบ้านใหม่ เจ้าหน้าที่พบศพ นายโกศรี จิตรักษ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 7 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง พ่อค้ารับชื้อน้ำยางพาราสดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.โคกชะงาย นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว เข้าแผ่นหลัง ศีรษะ รวมจำนวน 19 รู ห่างออกไปเจ้าหน้าที่พบหมอนรองกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 2 อัน และปลอกกระสุนปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นางสุจิตร จิตรักษ์ ภรรยาผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย พร้อมตน และลูกสาวได้ขับรถจักรยายนต์มาดูบ้านที่กำลังก่อสร้าง สักครู่ใหญ่ได้มีรถยนต์กระบะวีโก้สีดำ ขับมาจอดแล้วคนนั่งกระบะหลัง 2 คน สวมหมวกไหมพรมสีดำปิดหน้า กระโดดลงมาจากรถ เมื่อสามีตนเอง และลูกเห็นจึงวิ่งหลบ แต่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงไล่หลังสามีจนล้มก่อน ตามจ่อยิงซ้ำจนแน่นิ่งเสียชีวิต แล้วขับรถยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ด้าน พ.ต.ท.พีรสินธุ์ ฤทธาพิพัฒน์ สารวัตรใหญ่ .สภ.โคกชะงาย กล่าวเบื้องต้นจากการสอบถามภรรยาผู้ตายคาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าเป็นคนที่ผู้ตายรู้จัก เนื่องจากปิดบังอำพรางใบหน้า ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ ฆ่าล้างแค้น เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อปี 2553 ผู้ตายเคยก่อคดียิงทหารพรานเสียชีวิตในพื้นที่ ต.โคกชะงาย และเรื่องอยู่ในระหว่างคดี ญาติผู้ตายอาจะมีความโกรธแค้นเลยตามมายิงคืนดังกล่าว อีกประเด็นคือ ความขัดแย้งส่วนตัว แต่อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนหาสาเหตุการตายให้แน่ชัดอีกครั้งก่อนออกติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป